เร่งดัน “อัยการสูงสุด” คนใหม่ 3 ปมร้อนวัดใจ ส.ว.ติดเบรก

ประเด็นที่คณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) ที่มี “พชร ยุติธรรมดำรง” เป็นประธาน ก.อ. มีมติเอกฉันท์ เลือก “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์" ว่าที่รองอัยการสูงสุด เป็น “อัยการสูงสุด คนที่ 18” ต่อจาก นารี ตัณฑเสถียร อสส. คนปัจจุบัน ที่จะพ้นวาระ 30 ก.ย.66 ถูกตั้งข้อสงสัยในประเด็น “เร่งรีบ-เร่งรัด” และอาจมีวาระซ่อนเร้น

 

กลายเป็นเผือกร้อน โยนต่อมายัง “วุฒิสภา” ในฐานะองค์กรที่ต้องตัดสินว่า จะเห็นชอบกับชื่ออัยการสูงสุด(อสส.)คนใหม่ ตามมติ ก.อ. เมื่อ 3 มี.ค.66 หรือไม่

แม้จะมีคำอธิบายจาก ธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ถึงขั้นตอนการเสนอชื่อ ว่าเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อ ก.อ. มีมติเลือก อสส.แล้ว ต้องส่งเรื่องไปยังวุฒิสภา เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ ผ่านกรรมาธิการ(กมธ.)ตรวจสอบคุณสมบัติ ที่จะใช้เวลา 60 วัน จากนั้นต้องให้ ส.ว.ลงมติ

 

ทว่า โฆษกฯ ก็ปฏิเสธให้คำอธิบายถึงการเสนอชื่อ อสส.คนใหม่ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า แต่งตั้งล่วงหน้าเร็วกว่าปกติ เพราะตามธรรมเนียมจะเริ่มกระบวนการเสนอชื่อในเดือน ก.ค. และที่เสนอเร็วนั้นอาจเชื่อมโยงต่อกรณีที่ “พชร” จะครบวาระประธาน ก.อ.ในวันที่ 25 พ.ค. นี้หรือไม่

 

อย่างไรก็ดี มติของ “ก.อ.” เรื่องดังกล่าว ขณะนี้ยังมาไม่ถึง “สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา”

ในขั้นตอนและกระบวนการของวุฒิสภา ช่วงที่สภาฯ ปิดสมัยประชุม หรือยุบสภา นั้น “วันชัย สอนศิริ” ในฐานะเลขานุการ กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ระบุว่าวุฒิสภาไม่สามารถขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณากรณีแต่งตั้ง อสส.ได้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 126 กำหนดเป็นบทยกเว้นให้วุฒิสภาสามารถขอเปิดประชุมวิสามัญ ในช่วงที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ใน (2) ว่าด้วยพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามรัฐธรรมนูญ เพราะกรณีที่จะเปิดประชุมวิสามัญได้ตามมาตรา 126 (2) คือเฉพาะบุคคลในองค์กรอิสระ

 

“ในขั้นตอนของวุฒิสภา เมื่อองค์กรใดเสนอชื่อให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง ต้องตั้ง กมธ.เพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม เพื่อตรวจสอบก่อน โดยหลักๆ คือตรวจสอบคุณสมบัติว่าตรงตามที่เสนอหรือไม่” ส.ว.วันชัยระบุ

ส่วนประเด็นที่ถูกวิจารณ์ในสังคมอัยการว่า เร่งรีบ รีบร้อน เร่งรัด เกินปกติ จากที่ต้องเริ่มกระบวนการในเดือนก.ค.นั้น “วันชัย” ให้ความเห็นในฐานะที่เป็นกรรมการตรวจสอบฯ อสส. มาหลายครั้งว่า ไม่น่าผิดปกติ หรือมีวาระซ่อนเร้น หรือฉุกละหุกเกินไป ตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกต เพราะกระบวนการเลือก อสส.มีกฎหมายกำกับไว้ชัดเจน คือ เป็นรอง อสส.ผู้ที่มีความอาวุโสสูงสุด ไม่มีความประพฤติชั่ว ทำให้ทราบถึงบุคคลที่ถูกวางตัว

 

“กมธ.ที่ตรวจสอบฯ ได้สอบถามรายละเอียดพบว่า คนที่จะเป็น อสส.คนใหม่ นับจาก อสส.นารี ต่อไปคือ รอง ออส. อำนาจ และจะมีผู้ที่ถูกต่อลำดับต่อไปตามความอาวุโส 5-6 คน โดยแต่ละคน ดำรงตำแหน่งเพียง 1 ปีเท่านั้น กมธ.เคยตั้งข้อสงสัยว่าแค่ 1 ปี จะทำงานได้อย่างไร แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะตามกฎหมายเขียนคุณสมบัติไว้ชัดเจนให้ยึดความอาวุโสสูงสุด” วันชัย ระบุ

ทว่า อีกมุมจาก ส.ว.คนอื่นที่มองต่าง เพราะข้องใจในประเด็นที่ ประธาน ก.อ.เร่งรัดเสนอเรื่อง ก่อนหมดวาระ 2 เดือน และขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการเปิดรับสมัครบุคคลที่จะเป็นประธาน ก.อ.คนใหม่ แทน “พชร ยุติธรรมดำรง” 

อีกทั้งยังข้องใจกรณีที่ “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์”ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น“รองอัยการสูงสุด”อย่างเป็นทางการ ดังนั้นในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติ จึงคาดว่าจะถูกซักรายละเอียดและตรวจสอบอย่างเข้มข้น จึงอาจกลายเป็นประเด็นที่ทำให้การเห็นชอบ โดยมติของที่ประชุมวุฒิสภาต้องสะดุด

 

อย่างไรก็ดี “วันชัย” ยังให้ความเห็นด้วยว่า สำหรับการเสนอชื่อ “อำนาจ” ของ ก.อ.ชุด “พชร”  อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องเงื่อนไขเวลา ทั้งประเด็นการเลือกตั้งประธาน ก.อ.คนใหม่ ที่จะเกิดขึ้นช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ก่อนที่ ประธาน ก.อ.จะครบวาระ 25 พ.ค. และความคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปในเดือน พ.ค.นี้เช่นกัน เพราะกว่าที่ สภาฯ ชุดใหม่จะเปิดประชุมได้ อาจกินเวลาไปถึงเดือน ส.ค.

 

ดังนั้น หากรอกระบวนการของ ก.อ.ชุดใหม่ เสนอชื่อ และส.ว.พิจารณา ในกระบวนการที่ต้องสอบประวัติอีก 1 เดือน อาจไม่ทันที่ อสส.คนใหม่ ต้องเข้ารับหน้าที่ในวันที่ 1 ต.ค.นี้  

 

อีกทั้ง อสส.ตามชื่อที่ ก.อ.เสนอมานั้น อยู่ในลำดับอาวุโสอันดับหนึ่ง หากดำเนินการล่าช้า อาจทำให้มีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ ที่สามารถนั่งในตำแหน่งนี้ 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ

การเสนอชื่อ “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์” ที่มีประเด็นเรื่องการเข้าดำรงตำแหน่งรอง อสส. ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทักท้วงประเด็นด้านเทคนิคนั้น “วันชัย” เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาที่ทำให้สะดุด เพราะช่วงเข้าสู่การตรวจสอบของวุฒิสภา อีก 4-5 เดือนข้างหน้า อาจไม่มีปัญหานี้แล้วก็ได้

 

ต้องจับตา “เผือกร้อน" ปมตั้งอัยการสูงสุดคนใหม่ของวุฒิสภา ว่าจะมีทางออกอย่างไร.