เจาะยุทธศาสตร์ปลุก"แดงอีสาน" ฟื้นตำนาน 5 จว. ผลงาน“ทักษิณ”

เจาะยุทธศาสตร์ปลุก"แดงอีสาน"  ฟื้นตำนาน 5 จว. ผลงาน“ทักษิณ”

พรรคเพื่อไทยต้องการกอบกู้ภาพจำของ “ทักษิณ” ให้กลับมาอยู่ในหัวใจของ “คนเสื้อแดง” อีกครั้ง จึงจำเป็นต้องรื้อฟื้นภาพจำในอดีตของ “คนเสื้อแดง-คนอีสาน”

อุ๊งอิ๊งแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พาลูกทีม-ลูกพรรคเดินสายหาเสียง สร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นฐานเสียงหลัก และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการโกยเก้าอี้ ส.ส. เขต

โดย ส.ส.อีสาน 136 ที่นั่ง เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยวางเอาจะต้องกวาดให้ได้ 110-120 ที่นั่ง รักษาพื้นที่เดิมที่เคยชนะเลือกตั้ง ยึดพื้นที่เก่าที่เสียไปให้กับคู่แข่ง พร้อมทั้งขยายพื้นที่รุกคืบคู่แค้น

ในปี 2562 พรรคเพื่อไทย ส.ส. ภาคอีสาน 84 ที่นั่ง จากทั้งหมด 116 ที่นั่ง เสียให้กับพรรคภูมิใจไทย 16 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 11 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง และพรรคอนาคตใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา พรรคละ 1 ที่นั่ง

ทว่าการเลือกตั้งในปีนี้ โจทย์ของพรรคเพื่อไทย ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ จึงต้องยึด-รุกพื้นที่ภาคอีสานให้ได้มากที่สุด จึงต้องงัดทุกกลยุทธ์ เก็บทุกแต้ม เพื่อเพิ่มเสียงโหวตเก้าอี้นายกฯ แข่งกับขั้วอำนาจเดิมที่มี 250 ส.ว. คอยเป็นแบ็คอัพ

วันนี้ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย “แพทองธาร ชินวัตร” นำทีมลงพื้นที่ภาคอีสานเก็บรวดเดียว 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.

ในแต่ละจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยเลือกลงพื้นที่ปลุกกระแส ล้วนมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ ให้ต่อยอดความสำเร็จจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงยุคของพรรคเพื่อไทย

ที่สำคัญแต่ละพื้นที่ผูกโยงกับชื่อของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หวังใช้ความสำเร็จในอดีต ใช้ชื่อของ “ทักษิณ” มากล่อม “คนอีสาน” ให้เทคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทย

“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ยอมรับว่า “เมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทย และนายทักษิณ เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยชวนแกนนำพรรค รัฐมนตรี ขึ้นรถไฟออกจากวารินชำราบ และการไปอุบลราชธานีครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทย ก็จะนำเสนอนโยบายด้านการคมนาคม รถไฟความเร็วสูง”

จากนั้น อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวทักษิณ จะเคลื่อนขบวนไป จ.อำนาจเจริญ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่บึงพลาญชัย โดยชูโมเดลแก้จน “อาจสามารถโมเดล” ซึ่ง “ทักษิณ-ไทยรักไทย” วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ในยุคนั้นได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่

ต่อด้วยการเข้าตี จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ “ทักษิณ-ไทยรักไทย” ได้ประกาศนโยบายการเกษตรเป็นครั้งแรก โดยครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะใช้ จ.ขอนแก่น นำเสนอนโยบายด้านการเกษตรให้ประชาชนทั้งประเทศ

กำหนดการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ถูกวางแผนกำหนดอีเวนท์ให้เข้ากับธีมที่วางเอาไว้ โดย“ทีมยุทธศาสตร์” ประเมินแล้วว่าการปลุกกระแส “ทักษิณ” ให้กลับมาพูดถึงกันในวงกว้าง จะเพิ่มแต้มการเมืองในภาคอีสานได้มาก แถมพ่วงด้วยยี่ห้อ “แพทองธาร” เลือดแท้ชินวัตร ยิ่งเป็นแรงบวกให้กับพรรค

เนื่องจาก “ขั้วตรงข้าม” เริ่มใช้ยุทธวิธี โจมตีเข้ากล่องดวงใจของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ออกมาชำแหละแผล “ทักษิณ” ที่ทิ้ง “คนเสื้อแดง” ซึ่งอาจจะทำให้เสียแต้มไปพอสมควร

ฉะนั้น การกอบกู้ภาพจำของ “ทักษิณ” ให้กลับมาอยู่ในหัวใจของ “คนเสื้อแดง” อีกครั้ง จึงจำเป็นต้องรื้อฟื้นภาพจำในอดีตของ “คนเสื้อแดง-คนอีสาน”

ขณะเดียวกัน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในภาคอีสาน ที่ค่อนข้างลงตัว ไม่มีใครแตกแถว-แตกแยก ทำให้บรรยากาศของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานไร้แรงกระเพื่อม แทบไม่มีการต่อรองทางการเมืองออกมาให้เห็น

อย่างไรก็ตาม อาจจะอยู่ในช่วงที่ทุกคน-ทุกสายยังต้องสามัคคีกัน จับมือกันเพื่อกวาด ส.ส. ให้ไปสู่เป้าหมายชัยชนะแลนด์สไลด์ เอา “3 ป.” ออกจากการเมือง จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ 

ที่สำคัญเวลานี้ หากมี “กลุ่ม-ก๊วน” แข็งข้อกับ “ชินวัตร” อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเขี่ยออกจากผู้สมัคร ส.ส.ได้ และหากต้องหาพรรคใหม่สังกัด ก็ยากที่จะต่อกรกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้น “กลุ่ม-ก๊วน” การเมืองภายในพรรค จึงเลือกอยู่ในที่ตั้ง รอจังหวะเปิดโต๊ะต่อรองทางการเมืองเมื่อประสบความสำเร็จ

การเดินเกมของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ถูกวางแผนเอาไว้หมดแล้ว อยู่ที่ว่าจะเลือกเดินเกมในหมากใดก่อนกัน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า การชนะแบบแลนด์สไลด์ไม่ง่าย ฉะนั้นทุกย่างก้าว จึงต้องวางกลยุทธ์อย่างรัดกุม