"ประภัตร" หวังมีปาฏิหาริย์ ดัน "วราวุธ" เป็นนายกฯ

"ประภัตร" หวังมีปาฏิหาริย์ ดัน "วราวุธ" เป็นนายกฯ

เวทีปราศรัย "ชทพ." ครั้งแรกที่ สุพรรณบุรี คนร่วมคึกคัก "ประภัตร" ประกาศสุพรรณบุรี ต้องแลนด์สไลด์ในศึกเลือกตั้งปี66 หวังมีปาฏิหาริย์ดัน "วราวุธ" นั่งนายกฯ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดเวทีปราศรัยครั้งแรก เพื่อประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งปี2566  ของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ด้านหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรี หลายพื้นที่ ร่วมฟังการปราศรัยจนเต็มความจุของพื้นที่ ตั้งแต่ก่อนเวลาที่การปราศรัยจะเริ่มขึ้น 

\"ประภัตร\" หวังมีปาฏิหาริย์ ดัน \"วราวุธ\" เป็นนายกฯ

โดยเมื่อเวลา 16.30น. แกนนำพรรค อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานะหัวหน้าพรรค, น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษา , นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรค, นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคพื้นที่จ.สุพรรณบุรี กรรมการบริหาร กรรมการยุทธศาสตร์ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ร่วมสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง , อนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย อดีตนายกฯ เพื่อขอพรก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งนี้พบว่า คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดาของนายวราวุธ ร่วมมาให้กำลังใจเช่นเดียวกับนายจองชัย เที่ยงธรรม แกนนำพรรค ด้วย 

\"ประภัตร\" หวังมีปาฏิหาริย์ ดัน \"วราวุธ\" เป็นนายกฯ

จากนั้นเมื่อเวลา 17.40 น. การปราศรัยได้เริ่มขึ้น โดยนายยประภัตร เชิญชวนให้ประชาชนที่ร่วมการปราศรัย ตะโกนคำว่า พรรคชาติไทยพัฒนาต้องแลนด์สไลด์ในสุพรรณบุรี เพื่อปลุกใจ พร้อมกล่าวว่า ตนต้องการเห็นความร่วมมือร่วมใจ ต้องการแลนด์สไลด์ทางการเมือง คือ พรรคต้องได้ชัยชนะเหนือทุกพรรคอย่างถล่มทลาย เนื่องจากพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจุดเกิดขึ้นของพรรคชาติไทย ตั้งแต่ปี 2518 และรวมอายุถึงปัจจุบัน คือ 48 ปี ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหากคนสุพรรณบุรีทำให้พรรคชนะแลนด์สไลด์ได้ จะทำให้นายวราวุธฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคมีโอกาสได้เป็นนายกฯ หากเรียงลำดับแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองต่างๆ ตนเชื่อว่านายวราวุธจะเป็นนายกฯ  ที่สามารถรักษาระดับของประเทศได้

นายประภัตร กล่าวด้วยว่าตนเคยบอกนายวราวุธว่าในครั้งหนึ่งต้องเป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ให้ได้ เหมือนนายบรรหาร  ทั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาต้องโต ได้ส.ส. 20- 25 เสียง  อย่างไรก็ดีในการเมืองครั้งหนึ่ง พล.อ.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีส.ส.มี 18 เสียง ยังได้เป็นนายกฯ ดังนั้นหากพรรคนั้น พรรคนี้ รวมกันไม่ได้ ต้องเชิญนายวราวุธ ซึ่งตนเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง.