“จุรินทร์” เปิดกลยุทธ์ ปชป.สู้เลือกตั้ง ลั่น กทม.ไม่สูญพันธุ์ ปัดตอบร่วม พท.

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ “เนชั่นทีวี” ช่อง 22 ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรค ปชป. ในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง 2566 ว่า พรรค ปชป.ได้วางตัวบุคคลพร้อมมากแล้ว โดยวันที่ 28 ม.ค. 2566  จะไปเปิดตัวผู้สมัครภาคอีสานล็อตใหญ่ จำนวน 100 คน  ถัดจากนั้นจะเปิดในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 50 กว่าเขตที่มี หลังจากนั้นจะเปิดตัวในพื้นที่ กทม. โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวภาคเหนือแล้ว 61 คน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลายพื้นที่มีคนรุ่นใหม่ คนมีชื่อเสียง คนมีศักยภาพเข้ามาหลายคน  ที่จริงเริ่มมาโดยลำดับอยู่แล้ว หลายจังหวัด 7-8 เดือน ก่อนหน้านี้ พรรค ปชป.เปิดตัวผู้สมัครภาคเหนือและหลายจังหวัดไปแล้ว เป็นพรรคแรก ๆ ที่เปิดตัว แต่ตอนนั้นคนอาจไม่สนใจ เพราะยังไม่เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ คนเริ่มสนใจ  

• เปิดกลยุทธ์พิชิตใจชาวอีสาน กวาดเก้าอี้ ส.ส.

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์พิชิตใจภาคอีสานของพรรครอบนี้ว่า นอกจากต้องขายผู้สมัครแล้ว ปชป.ขายทั้งนโยบาย และผลงานที่สัมฤทธิ์ผลเห็นชัดเจนแล้ว คือ เงินส่วนต่างจากนโยบายประกันรายได้พืชผลทางการเกษตร พบว่า พี่น้องเกษตรกร พอใจเป็นอย่างยิ่ง  ถ้าคนที่ลงลึกจริง ๆ ทุกคนพูดถึงเงินส่วนต่างเข้าไปช่วยชดเชยราคาพืชผลทางการเกษตร ในยามราคาตกให้ได้เงินส่วนต่างไปชดเชยให้มีรายได้ตามราคาที่ประกาศ เช่น ข้าวหมอมะลิ เกวียนละ 1.5 หมื่นบาท ถ้าเหลือลงมา  1.2 หมื่นบาท ก็จะได้ 3,000 บาท เพื่อเป็นเงินส่วนต่างไปชดเชยให้บวกกับ 1.2 หมื่นบาท ราคาตลาดให้ได้รับบวกสามพันเป็น 1.5 หมื่นบาทตามราคาประกัน เกษตรกรอีสานเข้าใจดีแล้ว และพืชเกษตรของคนอีสาน เช่น มันสำปะหลัง  ตอนนี้สูงกว่าราคาประกัน เพราะเราประกันกิโลกรัมละ 2.50 บาท ตอนนี้ไป 3 บาทกว่าแล้ว ขอกล้าพูด นี่เป็นยุคทองเกษตรกร  ไร่มันสำปะหลัง  ตอนนี้เราเปิดตลาดมันสำปะหลังได้หลายประเทศ ล่าสุดพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าสองล้านตันเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา มีส่วนช่วยดึงราคามันสำปะหลังให้สูงขึ้นมาก 

“นโยบายภาพรวมสำหรับคนอีสานได้ประกาศไปชัดเจนแล้วว่า ถึงยุคที่เราต้องเดินหน้านโยบายอีสานเชื่อมโลก เชื่อมโลกด้วยการคมนาคม เชื่อมโลกด้วยเศรษฐกิจการค้า เชื่อมโลกด้วยการท่องเที่ยว และเชื่อมโลกด้วยซอฟท์พาวเวอร์ เป็นศักยภาพ เป็นอัตลักษณ์ของพี่น้องชาวอีสาน สะท้อนว่ามีทั้งนโยบายเชิงลึก เพื่อเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของภาคอีสาน และมีนโยบายภาพรวมที่จะขับเคลื่อนสร้างอนาคตให้กับภาคอีสาน ชัดเจนสำหรับประชาธิปัตย์” นายจุรินทร์ กล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการเลือกตั้ง มีการประเมินไว้ แต่ยังไม่ขอชี้แจงตรงนี้ว่า จะตั้งเป้าไว้กี่ที่นั่ง แต่มั่นใจเสียงตอบรับดีกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว มีทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน อดีต ส.ส. นักธุรกิจ นักกฎหมาย นักการเมือง วิศวกร ล่าสุด ในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่สกลนคร มีนายสาคร พรหมภักดี  เป็นผู้แทนหลายสมัย จ.นครราชสีมา มีอดีตผู้แทนหลายท่านลงสมัครในนาม ปชป. และมีโอกาสได้รับการเลือกตั้ง ยืนยันจะส่งตัวผู้สมัครตามเป้าหมายครบ 400 เขต

• เชื่อสนาม กทม. ไม่สูญพันธุ์เหมือนปี 62

เมื่อถามว่า ในพื้นที่ กทม.มีการนำบทเรียนจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มาวิเคราะห์ ปรับปรุงแก้ไขอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า คราวที่แล้วเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง จะด้วยเหตุใดไม่ขอย้อนไป แต่ด้วยข้อเท็จจริง ปชป.ไม่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เลย แต่เที่ยวนี้ มั่นใจจะไม่เป็นแบบนั้น เราดูจากการลงพื้นที่ และการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา และการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. เสียงตอบรับ ปชป.ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

“กรณีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ที่ผ่านมาของ ปชป.ส่ง “ดร.เอ้” นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ แม้ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่ ปชป.มาที่สอง และ ส.ก.ได้ 9 ที่นั่ง ขณะเดียวกัน ได้ที่สอง 7 ที่นั่ง แปลว่าโอกาสลุ้น ส.ก.จริง ๆ 16 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมาถึงผมมั่นใจเสียงตอบรับในระดับชาติน่าจะเทียบเคียงกับเสียงที่ได้รับจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.แม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่พอทำให้เห็นกระแส ปชป.ใน กทม.ว่าน่าจะฟื้นกลับคืนมาได้ดีขึ้นกว่าจากการเลือกตั้งที่คราวแล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว

หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวอีกว่า ทั้งหมดนี้เพราะการทำงานร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา รวมทั้งผลงานปรากฎเป็นรูปธรรม การเดินหน้าทางการเมืองมั่นคงหนักแน่น ยืนหยัดอุดมการณ์ของความเป็น ปชป. คราวที่แล้วสมาชิก ปชป.จำนวนหนึ่งเปลี่ยนใจไปสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค เพราะการแบ่งขั้วทางการเมือง แต่เที่ยวนี้โอกาสที่จะกลับมาลงคะแนนให้ ปชป. ก็มีความเป็นไปได้สูง จึงมั่นใจไม่สูญพันธุ์ 

นายจุรินทร์ กล่าวถึงช่วงเวลาใดจึงจะเหมาะสม ที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาว่า ความเหมาะสมในการยุบสภาเป็นเรื่องที่นายกฯพิจารณา แต่ว่าการยุบสภาต้องยุบก่อน 23 มี.ค. 2566 ส่วนหลังวันที่ 28 ก.พ. 2566 ตอบไม่ได้ อยู่ที่ดุลพินิจนายกฯ สำหรับ ปชป.ยุบสภาเมื่อไหร่ พร้อมเมื่อนั้น ส่วนจะยุบเมื่อไหร่เหมาะที่สุด ต้องถามว่าเหมาะสำหรับใคร เหมาะสำหรับพรรคการเมืองไหน แต่ว่าในภาพรวมต้องยุบก่อน วันที่ 23 มี.ค.นี้  

• ลั่นหากได้ ส.ส.น้อยลง พร้อมรับผิดชอบ

ส่วนกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป.ประกาศว่า หากการเลือกตั้งปี 2566 ได้ ส.ส.ต่ำกว่าปี 2562 จะวางมือทางการเมือง ในฐานะที่นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.จะทำอย่างไร ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ในฐานะเบอร์หนึ่งของพรรค ก็ต้องรับผิดชอบต่อพรรค ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในหน้าที่ของตนเอง เพราะวันที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร ต้องทำให้พรรคเดินไปข้างหน้า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ต้องเป็นแม่ทัพในการนำทัพไปต่อสู้กับพรรคการเมือง ให้ได้รับผลตอบรับที่ดีที่สุด ทราบหน้าที่อยู่แล้วว่ายังไง แต่ไม่จำเป็นว่าหัวหน้าพรรคต้องไปบอกว่า จะต้องได้จำนวนเท่านั้นเท่านี้ 

หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการแสดงจุดยืนของนายเฉลิมชัยอีกว่า ที่นายเฉลิมชัยประกาศออกไป สะท้อนให้เห็นว่ามีความพยายาม มีความตั้งใจแล้ว มั่นใจว่าสิ่งที่ท่านทำไปจะต้องดีกว่าเดิม ท่านพูดไป ทำให้สมาชิกพรรคมั่นใจขึ้น และเชื่อมั่นมั่นว่าท่านจะทำเต็มที่ แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้บอกต้องเดิมพันอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วหัวหน้าพรรคไม่ทำ ก็ทำ ตอนนี้ก็จับมือกันเดินหน้า

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีการประชุมหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค ผอ.เลือกตั้งของพรรค เตรียมการอีกขั้นหนึ่งของการเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ทั้งเรื่องเตรียมคน นโยบาย และทำยุทธศาสตร์ ในการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เรื่องนี้ยังไม่มีใครทราบ ก็ขอกล่าวไว้ตรงนี้ เพราะฉะนั้นสมาชิกพรรคเห็นอยู่แล้ว ตนทำงานไม่มีวันหยุด ทำงานทุกวัน ทั้งทำงานในฐานะรองนายกฯ รมว.พาณิชย์  และในฐานะ ส.ส. เพราะเป็นผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อของพรรค และเป็นหัวหน้าพรรค ทุกคนก็เห็น

• ปัดตอบจับขั้ว “เพื่อไทย” ยันรอผลเลือกตั้งก่อน

ส่วนกรณีการจัดสูตรจับขั้วรัฐบาล มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า ปชป.จะร่วมกับพรรคเพื่อไทย นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่อาจมีคนคิด คนพูด แต่ว่า ปชป.ประกาศชัดเจนไปแล้วว่า จะไปตั้งรัฐบาลรูปแบบไหนอย่างไร ให้รอผลการเลือกตั้ง รอประชาชนให้คำตอบก่อน พรรคการเมืองจะไปตอบก่อนประชาชน ทำได้ แต่สุดท้ายแล้ว ไม่เห็นหัวประชาชนเลยหรือ  เพราะฉะนั้นต้องฟังเสียงประชาชน  เขาบอกว่าอย่างไร ให้พรรคไหนจำนวนเท่าไหร่ 

“ระบบของเราเป็นระบบรัฐสภา มีกติกาชัดเจนอยู่แล้วว่า ถ้าใครรวมเสียงขางมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ คนนั้นเป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน หลักเกณฑ์กติกาชัด ปชป.ก็ชัด ไม่มีอะไรหลีกหนีจากหลักที่ว่านี้เลย เพราะเป็นระบบที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด  ถึงมีสโลแกนสมัยท่านชวนที่ว่า ประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา นี่คือสิ่งที่เรายืนยันต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล ใครเป็นเสียงข้างน้อยก็ตรวจสอบรัฐบาล แต่สุดท้าย ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบ ใครได้เสียงเท่าไหร่” นายจุรินทร์ กล่าว