"ก้าวไกล" จัดประชุมใหญ่ 28 ม.ค. "พิธา" โชว์วิสัยทัศน์การเมือง-เศรษฐกิจ

"ก้าวไกล" จัดประชุมใหญ่ 28 ม.ค. "พิธา" โชว์วิสัยทัศน์การเมือง-เศรษฐกิจ

"พิธา" ตั้งเป้า "ก้าวไกล" เป็นพรรคระดับชาติ กวาด ส.ส.จากทุกภูมิภาค เชื่อได้ ส.ส.มากกว่าเดิม ย้ำไม่จับมือพรรคทหารจำแลง หวัง "ประยุทธ์" ไม่ชิงยุบสภา หนีซักฟอก ม.152 เผยประชุมใหญ่พรรค 28 ม.ค.โชว์วิสัยทัศน์การเมือง

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งที่กำลังจะถึง ว่า พรรคก้าวไกลตั้งเป้าเป็นพรรคระดับชาติ ต้องมี ส.ส.เขตในทุกภูมิภาค และต้องได้ ส.ส.มากกว่าเดิม โดยจากผลการเลือกตั้งซ่อม เชื่อว่ายังรักษาฐานเสียงของพรรคก้าวไกลได้ภายใต้ยุทธศาสตร์ “รักษาเขตเดิม เพิ่มเติมเขตใหม่” แต่ก็ไม่ประมาท 

นายพิธา กล่าวว่า สำหรับเงื่อนไขการจับมือพันธมิตรทางการเมืองกับพรรคอื่น อยู่ที่น้ำหนักทางการเมือง ความท้าทายของพรรคร่วมฝ่ายค้านในตอนนี้ แม้จะมีความหลากหลาย แต่ตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศ มั่นใจเป็นขั้วที่ดีที่สุดที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ยืนยันพรรคจะไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือระบอบประยุทธ์

นายพิธา กล่าวอีกว่า ยอมรับการจับมือทางการเมืองมีได้หลายสูตร-หลายสมการ ไม่ว่ากระแสพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เท่าที่ตามข่าวเห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่จับมือกับพรรคการเมืองใด อย่างไรก็ดีความตั้งใจของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ต้องการเข้าสู่การเป็นรัฐบาลเพื่อแชร์อำนาจทางการเมือง แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ

นายพิธา กล่าวถึงการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคในวันที่ 28 ม.ค. 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่า วาระคือการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดรับกับร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่ และไฮไลท์คือการโชว์วิสัยทัศน์ทางการเมืองของนายพิธาและนโยบายหาเสียง 9 เสา โดยเน้นนโยบายระดับชาติ  พร้อมโชว์วิสัยทัศน์เค้าโครงทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ

นายพิธา กล่าวอีกว่า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะไม่ตัดสินใจชิงยุบสภา ก่อนที่จะมีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยการอภิปรายครั้งนี้มีความสำคัญ หาก พล.อ.ประยุทธ์ สง่างามควรมีให้มีโอกาสอภิปรายก่อน อย่ายุบสภาหนี และประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งเป็นพรรคใหม่ หากไม่ได้ ส.ส.เกิน 25 คน ก็เสนอตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แม้จะมี ส.ว.ในมือ 

นายพิธา กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันสูงขอประชาชนตัดสินใจให้ดีในการเลือกผู้แทนราษฎร  หากแต่ละพรรคได้ผู้แทนฯสภาล่างควรตั้งรัฐบาลได้เอง อย่ากลัว ส.ว.มากเกินเหตุ หากแพ็คกันแน่นเสียงเกิน 250 เชื่อว่า ส.ว.ไม่สามารถต้านเจตจำนงค์ประชาชนได้ หรือหากพลเอกประยุทธ์ไปต่ออีก 2 ปี เชื่อว่าสภาฯจะมีปัญหาไม่สามารถผ่านกฎหมายได้  เพราไม่ได้เป็นพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม