"ทนายบิลลี่" ทิ้ง ส.ส. "ก้าวไกล" เปิดสเปกพรรคใหม่ ต้องทันสมัย-ก้าวหน้า

"ทนายบิลลี่" ทิ้ง ส.ส. "ก้าวไกล" เปิดสเปกพรรคใหม่ ต้องทันสมัย-ก้าวหน้า

"ทนายบิลลี่" ส.ส.กทม. โพสต์ทิ้งเก้าอี้ ส.ส.-สมาชิกพรรคก้าวไกล ขอบคุณ "อนาคตใหม่-ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา" ที่ให้โอกาส เปิดสเปกพรรคใหม่ ทันสมัย-ก้าวหน้า

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ "ทนายบิลลี่" ส.ส.กทม. โพสต์ข้อความขอลาออกจาก ส.ส. และสมาชิกพรรคก้าวไกล แต่มิได้ระบุว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใดต่อ โดยตามรัฐธรรมนูญ ระบุว่าช่วง 180 วันก่อนสภาหมดวาระ ไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งซ่อม

นายจิรวัฒน์ ระบุรายละเอียด ดังนี้

วันนี้ถือว่าเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของผมในสมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมานับว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าทางการเมืองของผม ชีวิตชื่นชอบการเมืองและติดตามการเมืองมาโดยตลอดไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสก้าวย่างมาสู่เวทีแห่งการปฎิบัติจริง ก่อนจะเข้ามาเป็นผู้แทนหลังจบเนติบัณฑิตคิดเสมอว่าชอบงานกฎหมาย ต้องเป็นทนายความ แล้วก็เป็นผู้พิพากษา แต่สุดท้ายจังหวะของชีวิตได้ให้โอกาสเข้ามาเป็นผู้แทน

อย่างแรกต้องขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุลและคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ได้ให้โอกาสผมเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้สมัครของพรรค จนได้มีโอกาสมาเป็นผู้แทนที่ทำงานทั้งในสภา และนอกสภา ทั้งการได้มีส่วนสำคัญในการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าไปนั่งอยู่ในกรรมาธิการวิสามัญที่สำคัญอย่างการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงบทบาทต่าง ๆ ภายในพรรค ตลอดจนการลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ ผมจะยังคงระลึกและเก็บคุณค่า และสิ่งที่มอบหมายหน้าที่ดังกล่าวนั้น ๆ ให้กับผมนับว่าเป็นสิ่งที่มีความหมายกับผมมาก และทำให้ผมได้มีประสบการณ์และมุมมองต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นเกี่ยวกับการเมืองไทย

สิ่งที่ทำให้ผมซึมซับกับการเป็นผู้แทนในช่วงบริบทการเมืองที่ผ่านมานั้น บ้านเมืองของเราจะมั่นคง เศรษฐกิจจะยั่งยืนและเติบโตได้ ต้องปกครองประเทศชาติด้วยกลไกของประชาธิปไตย และมีผู้นำที่เก่ง มีวิสัยทัศน์ในระดับนานาชาติโดยตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีการรัฐประหาร การเมืองของเราย่ำอยู่กับที่ มีแต่ความขัดแย้ง ประชาชนยากจนความเหลื่อล้ำของเราสูงขึ้น ทำให้สังคมและประชาชนต่างมีประสบการณ์ร่วมกันว่าผู้นำและผู้บริหารประเทศ ตลอดจนองค์กรทางการเมืองอย่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องมีพื้นฐานที่มาตามครรลองของประชาธิปไตยโดยประชาชน และมีรัฐธรรมนูญที่มีฐานรากของประชาธิปไตยที่แท้จริง และสำคัญที่สุดคือต้องสามารถปรับกระบวนทัศน์ทางการเมืองที่สามารถหลอมรวมกลุ่มต่าง ๆ ทางสังคมและการเมืองให้มาสมัครสมานสามัคคีเพื่อให้บ้านเมืองรอดพ้นจากความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่นี้ไปให้ได้

ดังนั้นแม้วันนี้ผมจะได้เดินออกมาจากพรรคก้าวไกลแล้วแต่ผมก็จะขอขอบคุณในมิตรภาพและประสบการณ์ร่วมทางการเมืองที่ผ่านมากับพรรคอีกครั้งในย่อหน้าสุดท้ายนี้ ส่วนชีวิตการเมืองของผมจะไปในทางไหนผมก็ขอใช้เวลาคิดทบทวนอีกครั้ง 

แต่หนทางที่ตัดสินใจแน่นอนคือพรรคนั้นจะมีจุดร่วมและอุดมการณ์ทางการเมืองที่มีห้องของหัวใจส่วนหนึ่งเหมือนพรรคก้าวไกล คือเข้าใจคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย มีความคิดที่ก้าวหน้า และวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งครับ