ชำแหละขั้วการเมือง“เพื่อไทย” ทีม“ยิ่งลักษณ์”แรงหนุน“เศรษฐา”

ชำแหละขั้วการเมือง“เพื่อไทย” ทีม“ยิ่งลักษณ์”แรงหนุน“เศรษฐา”

ขุมกำลังของพรรคเพื่อไทย ขั้วการเมืองภายในพรรคเพื่อไทย รู้ดีว่าไม่ใช่ไทม์มิ่งแย่งชิงจนเกิดความแตกแยก บรรยากาศในพรรคต้องมีความสามัคคี เพื่อเดินไปสู่จุดหมายมุ่งหมาย “แลนด์สไลด์” เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ชิงอำนาจมากจาก “ขั้ว 3 ป.” ปูทางพา “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน

แม้ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ชื่อของ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ถูกสปอตไลท์การเมืองจับจ้อง ภายหลังมีกระแสข่าว “ตระกูลชินวัตร” เคาะให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

เสียงตอบรับภายนอกจากหลากหลายภาคส่วนอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะการเมืองเรื่องอำนาจต้องการจุดเปลี่ยน หลังอยู่ภายใต้การคอนโทรลของ “3 ป.” มา 8 ปีกว่า เมื่อมีตัวเลือกใหม่ถูกเปิดชื่อออกมากระแสตอบรับจึงอยู่ในแดนบวก

เช่นเดียวกับเสียงตอบรับภายในพรรคเพื่อไทยแทบไร้แรงต้าน เนื่องจากแรงสนับสนุนของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้แกนนำพรรค-ส.ส. ค่อนข้างคล้อยตาม

ขณะที่ “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์ แม้จะออกแรงสนับสนุนลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลงสนามการเมือง แต่รู้ดีว่ายังไม่ถึงเวลาที่ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องลงมาเสี่ยงเต็มตัว 

ดังนั้นการเคลื่อนไหวของ “อุ๊งอิ๊ง” ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงเป็นสัญลักษณ์ตระกูลชินวัตร ลงพื้นที่หาเสียง เก็บคะแนนเสียง ในพื้นที่เรดโซน แน่นอนว่าจะมีชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่เทหมดหน้าตัก ไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง

ที่สำคัญหาก “อุ๊งอิ๊ง” ประสบอุบัติเหตุทางการเมืองเร็วเกินไป “ตระกูลชินวัตร” จะเหลือหน้าไพ่ทางการเมืองลดลง จึงคุ้มค่ากว่าหากเก็บไว้ใช้ในระยะยาว

ขั้วการเมืองภายในพรรคเพื่อไทยในปีกของคุณหญิงพจมาน อาทิ “เจ๊แจ๋ว” จุฑารัตน์ เมนะเศวต ที่เข้าไปคุมการเงิน คอนโทรลทีมยุทธศาสตร์พรรค คุมอำนาจเบ็ดเสร็จในการกำหนดทุกความเคลื่อนไหว จึงไม่ซีเรียสหาก “เศรษฐา” จะเป็นเบอร์หนึ่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ด้านขั้ว “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ช่วงหลังเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังต้องหลบฉากไปพร้อมกับการรื้อคดีจำนำข้าวภาค 2 ปรากฏตัวเป็นแบ็คอัพงานครอบครัวเพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ เช่นเดียวกับ “คุณหญิงพจมาน” แต่กลับไม่มีภาพร่วมเฟรมถ่ายรูปครอบครัวด้วยกัน

ระยะหลัง “เยาวภา” กลับมาซ่อสุมกองกำลังในภาคเหนือ คอยเคลียร์พื้นที่ให้เด็กในคาถา ลงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค เบียดเจ้าของพื้นที่เดิมในหลายเขต โฟกัสหลักของ “เยาวภา” อยู่ที่ภาคเหนือตอนบน อาทิ จ.เชียงใหม่ เชียงราย โดยมีกองกำลังของตัวเองคอยสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร

ซึ่งแม้ “เยาวภา” ต้องการผลักดันให้สามี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยมีโอกาสทำงานในทำเนียบฯ กลับขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกรอบ แต่ด้วยแรงสนับสนุนที่ลดน้อยลง ทำให้ต้องปิดผนึกเอาไว้

ทำให้ชื่อของ “เศรษฐา” ที่ถูกโยนออกมาตามหน้าสื่อ ไม่มีแรงต้านจาก “เยาวภา” หรือ ส.ส.ขั้วเจ๊แดง ออกมาให้เห็น แต่ก็ไม่มีใครออกมาสนับสนุนออกหน้าออกตาเช่นกัน

ขณะเดียวกัน “ขั้วยิ่งลักษณ์” ที่เริ่มมีขุมกำลังเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทีมคนรุ่นใหม่ที่เคลื่อนพลมาจากอดีตพรรคไทยรักษาชาติ มาร่วมกันคิดแคมเปญใหม่ ภายในพรรค และกำหนดยุทธศาสตร์พรรคร่วมกับ “อุ๊งอิ๊ง”

นอกจากนี้ ยังมีทีม ส.ส. กทม. อาทิ “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด มาดามเมืองหลวงคนใหม่ คอยคุมทัพ ส.ส. กทม. พร้อมกันนี้ “ทีมยิ่งลักษณ์” ยังมี ส.ส. กทม. อีกหลายคน

โดยขุมกำลังใน “ทีมยิ่งลักษณ์” จะเป็นแรงสนับสนุนให้การทำงานของ “เศรษฐา” ราบรื่น ขณะที่แรงต้านแม้จะน้อยนิด แต่มีความเคลื่อนไหวปรากฏอยู่ โดยเฉพาะทีม ส.ส.อีสาน ที่สนับสนุนชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” มากกว่า

เนื่องจากนามสกุล “ชินวัตร” ในภาคอีสานทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทย รวมถึงคะแนนนิยมของว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากหันไปชู “เศรษฐา” เกรงว่าจะกระทบต่อคะแนนนิยมในภาพรวม แต่แรงต้านแค่เบาบาง อาจจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของ “ทักษิณ-ครอบครัวชินวัตร”

เวลานี้ ขุมกำลังของพรรคเพื่อไทย ขั้วการเมืองภายในพรรคเพื่อไทย รู้ดีว่าไม่ใช่ไทม์มิ่งแย่งชิงจนเกิดความแตกแยก บรรยากาศในพรรคต้องมีความสามัคคี เพื่อเดินไปสู่จุดหมายมุ่งหมาย “แลนด์สไลด์” เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ชิงอำนาจมากจาก “ขั้ว 3 ป.” ปูทางพา “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน