ฟันกราวรูด 5 นักการเมืองท้องถิ่นหนองคายทุจริต อดีตนายก อบต.สระใคร โดน 6 คดี

ฟันกราวรูด 5 นักการเมืองท้องถิ่นหนองคายทุจริต อดีตนายก อบต.สระใคร โดน 6 คดี

ป.ป.ช.หนองคาย แพร่ผลดำเนินงานปี 65 ชี้มูลกราวรูด 5 นักการเมืองท้องถิ่น พบ อดีตนายก อบต.สระใคร โดนฟันทุจริต 6 สำนวนรวด ทั้งซื้อคอมพ์-ผ้าห่มกันหนาว-งานประเพณีลอยกระทง-บุญบั้งไฟ-น้ำมันเชื้อเพลิง

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ผลการดำเนินงานในภาพรวมของสำนักงาน ป.ป.ช.หนองคาย ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีผลการดำเนินงานภารกิจปราบปรามการทุจริตประจำปีงบประมาณ 2565 (ระหว่าง 1 ต.ค. 2564-30 ก.ย. 2565) พบว่า มีเรื่องร้องเรียนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้น 149 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ 34 เรื่อง คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้ว 6 เรื่อง อยู่ระหว่างพิจารณา 15 เรื่อง และคงเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 13 เรื่อง

โดยประเภทเรื่องกล่าวหาร้องเรียนสูงสุด 5 อันดับแรกของสำนักงาน ป.ป.ช.หนองคาย ได้แก่ 

  1. การจัดซื้อจัดจ้าง                   
  2. การศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม       
  3. สาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน     
  4. ที่ดิน                        
  5. กระบวนการยุติธรรม    

โดยมี 5 เรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่มีมติชี้มูลความผิด ได้แก่

  • กรณีกล่าวหานายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย

ทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 6 ข้อกล่าวหา ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 

ข้อกล่าวหาที่ 1 ทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้ง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551

มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมี

มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการการอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคสอง นอกจากนี้ ยังเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

ข้อกล่าวหาที่ 2 ทุจริตจัดซื้อผ้าห่มกันหนาว ปี พ.ศ. 2552

มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

ข้อกล่าวหาที่ 3 ทุจริตเบิกเงินค่าใช้จ่าย การจัดงานประเพณีวันลอยกระทงและแข่งเรือกีบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550

ข้อกล่าวหาที่ 4 ทุจริตค่าใช้จ่ายการศึกษาดูงานและค่าใช้จ่ายในงานรัฐพิธี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และ

ข้อกล่าวหาที่ 5 ทุจริตค่าใช้จ่ายการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟและงานประเพณีสงกรานต์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 

มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ

ข้อกล่าวหาที่ 6 ทุจริตจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง ในปีงบประมาณ 2551 – 2552

มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง 

  • กรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย

ทุจริตโครงการขุดลอกห้วยและก่อสร้างซ่อมแซมถนนรวม 6 โครงการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา 3 ข้อหา ด้วยกัน คือ

ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91

ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้า หรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางประกอบธุรกิจ ฐานใช้อุบายหลอกลวง หรือกระทำการโดยวิธีอื่นใด เป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

  • กรณีกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดอำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายกับพวก ได้มีพฤติการณ์ตรวจรับงานจ้างและเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างขุดลอกลำห้วยบังพวน บ้านนาพิพาน - บ้านไร่ ตำบลปะโค

ในโครงการเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประจำปี พ.ศ. 2555 ทั้งที่ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการและสัญญาจ้าง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิด ดังนี้

เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกชี้มูลความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) และ (4) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 (1)

เจ้าหน้าที่รัฐอีกจำนวน 4 ราย มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) และ (4) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 (1) 

เอกชน จำนวน 2 ราย สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) และ (4) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172)

  • กรณีกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัด นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย กับพวก ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการนิคมสร้างตนเองโพนพิสัย จังหวัดหนองคายโดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ปี 2554 จำนวน 5 โครงการ

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ดังนี้

เจ้าหน้าที่รัฐชี้มูลความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 (1)

เอกชน ชี้มูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) 

เจ้าหน้าที่สังกัดองค์การบริหารส่วน ตำบลจุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เรียกรับเงินจากผู้เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล เมื่อปี พ.ศ. 2556 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 103/1 และมาตรา 122 (ปัจจุบันความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169) และมาตรา 123 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 171) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดหนองคาย เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ. 2544 ข้อ 19

อนึ่ง การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด