"สุพันธุ์" ชี้ "คนละครึ่ง" ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นกำลังซื้อ แนะ ลดหนี้-ลดดอก

"สุพันธุ์" ชี้ "คนละครึ่ง" ไม่ตอบโจทย์กระตุ้นกำลังซื้อ แนะ ลดหนี้-ลดดอก

"สุพันธุ์" ชี้ "คนละครึ่ง" เฟส6 กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ถูกจุด แก้ปัญหาไม่ตรงเป้า ไม่กระตุ้นใช้จ่าย เหตุ คนไม่มีเงินในกระเป๋า แนะ ลดค่าครองชีพแทน ลดหนี้-ลดดอก ปลุก กำลังซื้อ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าวเรื่องการออกมาตรการคนละครึ่ง เฟส 6 ที่จะมีการนำเข้าที่ประชุมครม. ในช่วงกลางเดือนพ.ย.นี้ ว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ถูกจุดและแก้ปัญหาได้ไม่ตรงเป้าหากดูตัวเลขของโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ในปัจจุบัน ที่ผ่านเวลาไปแล้วเกิน 70% ของระยะเวลาโครงการที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ในวงเงิน 800 บาท มีผู้ใช้สิทธิ์จนครบวงเงินแล้วประมาณ 8.75 ล้านคน หรือเพียง 36% ของผู้เข้าร่วมโครงการ และ มีร้านค้าที่เข้าร่วมโรงการลดลงเหลือเพียง 9.75 แสนร้านค้า จาก 1.3 ล้านแห่ง หรือมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการน้อยลงกว่า 3 แสนแห่ง สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวได้รับความสนใจน้อยลงจากประชาชน ทั้งๆที่ในช่วงปลายปีมักจะเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายใช้สอบที่ค่อนข้างสูง 

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า มาตรการคนละครึ่งเอง รวมไปถึงมาตรการซอฟท์โลนที่ไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ เสียที เนื่องจากการที่ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลงสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะประชาชนเอง ไม่มีเงินในกระเป๋าเพียงพอที่จะใช้จ่าย มาตรการที่ออกมาจึงควรจะเปลี่ยนจากมาตรการที่เน้นแจกเงินแบบประชานิยม แต่เปลี่ยนมาเป็นมาตรการที่ลดค่าครองชีพแทน โดยเฉพาะมาตรการที่เกี่ยวกับการลดหนี้ และลดดอกเบี้ยของประชาชนในระบบ เพราะแม้รัฐจะออกมาตรการมาให้ประชาชนใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อประชาชนไม่มีเงินที่จะไปใช้จ่ายก็ทำให้มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไปไม่ถึงเป้า เพราะประชาชนต้องนำเงินไปใช้จ่ายกับภาวะหนี้สิน 

นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่สำคัญในช่วงนี้คือสภาวะน้ำท่วม ที่เมื่อน้ำท่วมก็ทำให้โอกาสในการออกไปจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องยากขึ้น รัฐจึงควรเร่งเยียวยาปัญหาน้ำท่วมก่อนและอีกเรื่องที่ควรเร่งแก้คือการวางมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน จัดการระบบชลประทานใหม่ทั้งระบบ เพื่อที่ประชาขนไม่ต้องทนกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ที่กระทบต่อเศรษฐกิจของประชาชนลดค่าใช้จ่ายของรัฐที่ต้องมาจ่ายเยียวยาค่าเสียหายทุกปี เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทางชลประทานเพียงครั้งเดียวที่จะทำให้ประชาชนสร้างผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืนและลดค่าใช้จ่ายระยะยาวของรัฐในแต่ละปีลง

“ปัญหาใหญ่ของทุกวันนี้คือปัญหาหนี้ เพราะการเป็นหนี้ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อที่มากเพียงพอที่จะออกมาจับจ่ายได้แม้แต่ครึ่งเดียว สิ่งที่รัฐควรทำในช่วงนี้คือการเร่งแก้หนี้และดอกเบี้ยที่สะสมอยู่ในระบบมากกว่า ออกมาตรการแจกเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่วันนี้เราเห็นแล้วว่าไม่สามารถทำได้ตามเป้า และมีเงินค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาลสิ่งที่ทางพรรคจะทำคือการเร่งแก้หนี้ แก้ปัญหาดอกเบี้ย เพราะปัญหาหนี้เป็นปัญหาหลักที่ลดทอนกำลังซื้อและความสามารถในการใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน” นายสุพันธุ์ กล่าว