“นายกฯ” เผย เกณฑ์ ครอบครองปืน ยากขึ้น เล็งแก้ กฎหมายยาเสพติด นิยามผู้เสพใหม่

“นายกฯ” เผย เกณฑ์ ครอบครองปืน ยากขึ้น เล็งแก้ กฎหมายยาเสพติด นิยามผู้เสพใหม่

“นายกฯ” เผย คุมเข้ม ปืน - เครื่องกระสุน ขอใบอนุญาต ต้องคุณสมบัติครบ ไม่วิกลจริต มีคนรับรอง ใครมีปัญหาทางจิตเพิกถอนทันที จ่อแก้กฎหมาย ครอบครองยาบ้า 5 เม็ด ไม่ใช่ผู้เสพ สั่งตั้งศูนย์คัดกรอง บำบัดผู้ติดยาทุกตำบล

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และอาวุธ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรการสำคัญที่ได้ครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาของอาวุธปืน และปัญหายาเสพติด โดยเรื่องที่เกี่ยวกับอาวุธปืน เราจะมีการกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน อย่างเข้มงวด การออกใบอนุญาต และการต่อใบอนุญาต และการพกพาทั้งหมด ผู้ยื่นขอใบอนุญาตจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มีการตรวจสอบ และรับรองทางจิต ไม่วิกลจริต ฟั่นเฟือน มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งต้องไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยสังคม ให้มีมาตรการตรวจสอบ และทบทวน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติในทุกๆ รอบ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือในเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เมื่อพบปัญหาทางจิต พฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อน และการซื้อขายทางออนไลน์อย่างจริงจัง และจำเป็นจะต้องทบทวนกฎหมายบางฉบับกฎกระทรวงบางเรื่องที่จำเป็นให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในส่วนของเรื่องอาวุธปืนยังมีรายละเอียดอีกมากซึ่งได้มอบหมายไปแล้วว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องของคณะทำงานที่จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด วันนี้เราทำอย่างเต็มที่ในเรื่องการควบคุมการนำเข้า และส่งออกสารเคมี การเร่งติดตามการสืบสวน และขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด และการยึดอายัดทรัพย์สิน การบูรณาการ การนำผู้เสพ เข้าสู่ระบบศูนย์ข้อมูล การทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วยซึ่งจะเกี่ยวข้องกับประเด็นปริมาณการครอบครองเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู เรื่องนี้ต้องไปทบทวน และพิจารณาดู โดยวันเดียวกันนี้ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงปริมาณ 5 เม็ด หรือ 15 เม็ด ถ้าจำเป็นต้องมีการปรับแก้กฎหมายเหล่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา 

“เจ้าหน้าที่ และข้าราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกกรณีในการเข้าไปเกี่ยวข้อง” นายกฯ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มาตรการ การบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดจำเป็นต้องเร่งค้นหาคัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่สถานฟื้นฟูภาคีเครือข่าย เร่งจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครบ และครอบคลุมในทุกตำบล ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ส่วนท้องถิ่น และสถานบำบัดรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐานของสากล ซึ่งกระบวนการบำบัดให้ใช้ชุมชนเป็นฐานซึ่งวันนี้ต้องหาให้ได้ว่าในพื้นที่ ในท้องถิ่นชุมชนหมู่บ้าน มีจำนวนผู้ติดยาเสพติดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะมีการพูดกันไปมาว่าพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้มีมากจึงต้องเข้าไปเอกซเรย์คัดคนพวกนี้ออกมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้ให้ได้

“พฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่ชอบความรุนแรง มีปัญหาส่วนตัวติดยาเสพติด ที่ประชุมได้มีข้อเสนอว่าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อติดตามดูแลคนเหล่านี้ การพัฒนาแก้ไขปัญหาในเรื่องของสุขภาพจิต เน้นย้ำให้ไปดูแลระบบสุขภาพจิตในโรงเรียน สถานศึกษาทุกแห่ง สถานประกอบการต่างๆ ที่มีพนักงานจำนวนมาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรงจะต้องหารือร่วมกันในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูต้องดำเนินการโดยทันที” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วรัฐบาลเข้มงวดกับเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ยังมีปัญหาอยู่ วันนี้มันเป็นปัญหาซ้อนปัญหาไปในเรื่องของการใช้อาวุธปืน และเรื่องการก่อเหตุรุนแรง ตนห่วงใย และพยายามจะทำให้ดีที่สุด ในที่ประชุมทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีได้ให้ความกรุณาในการเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ได้มีการทบทวน และใช้เวลาในการดำเนินการ อะไรที่ทำได้เราจะทำทันที ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุด 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์