ผบ.ทอ.สานต่อเครื่องบิน F-35 เตรียม 2 แผน รอสหรัฐ เคาะขาย

ผบ.ทอ.สานต่อเครื่องบิน F-35 เตรียม 2 แผน รอสหรัฐ เคาะขาย

ผบ.ทอ. สานต่อเครื่องบินเอฟ 35 จำนวน 2 เครื่อง เตรียม 2 แผนรับมือ ระหว่างรอสหรัฐ อนุมัติ ยอมรับโอกาสได้ 50/50 ชี้การเมืองระหว่างประเทศมีผล

พล...อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)กล่าวภายหลังแถลงนโยบายประจำปีงบประมาณปี 2566 ว่า ตนมีปณิธานในการทำงาน 3 ข้อ คือ สานต่อ สร้างขวัญ และพัฒนา ซึ่งการสานต่อคือการเดินหน้าในงานของอดีต ผบ.ทอ.ท่านที่ผ่านมาในทุกๆ งาน อย่างเต็มกำลังความสามารถ เช่น โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีของกองทัพอากาศ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกแบบเป็นเอฟ 35 ขณะนี้ได้เสนอความต้องการในการจัดหาจำนวน 2 เครื่อง จำนวน 7,383 ล้านบาท ไปยังสหรัฐเรียบร้อยแล้ว  พร้อมได้รับจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปี 2566-2569  ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ  ประสานข้อมูลอย่างต่อเนื่องไปยังรัฐบาลสหรัฐวัตถุประสงค์สำคัญคือ ต้องการรับคำตอบในขั้นตอน พีแอนด์เอ หากได้รับคำตอบในช่วงเดือนม.ค. ถึงก.ค. งานนี้ก็จะเดินต่ออย่างเต็มที่

ทั้งนี้ คำตอบมีสองทาง คือ ขายกับ ไม่ขาย ถ้าขายก็จะต้องดำเนินตามขั้นตอน แอลโออาร์ ฟอร์ แอลโอเอ เพื่อดำเนินการทำร่างสัญญาแต่ก่อนจะเข้าขั้นตอนแอลโอเอ จะต้องมีการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ต้องไปดูขั้นตอนอีกที

“แต่ขอให้ขายเถอะเพราะเป็นสิ่งที่เราปรารถนาอย่างสูงสุด เมื่อผ่านขั้นตอนแอลโอเอแล้วต้องอยู่ที่การอนุมัติของสภาคองเกรสสหรัฐ ถ้าพีแอนด์เอที่ส่งมาเป็น yes ก็ถือว่าผ่าน 90% แล้ว”

เมื่อถามว่า มั่นใจในการจัดซื้อแค่ไหน และเกรงว่าจะเหมือนโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือที่ต้องชะลอไปเรื่อยๆหรือไม่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจ เพราะมาตรฐานของเครื่องบินแบบนี้รวมถึงมาตรฐานของบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน  ซึ่งเราดูในเรื่องของขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงการดำเนินการต่างๆ อีกทั้งการส่งอากาศยานแบบนี้ไปจำหน่ายทั่วโลก เป็นตัวชี้วัดในเรื่องมาตรฐานในการขายอากาศยานแบบนี้ให้กับประเทศของเรา แต่ถ้าเราดำเนินการช้าก็ต้องไปต่อคิวกับประเทศอื่นที่มีการจัดซื้อก่อนหน้าเรา เมื่อเราได้พีแอนด์เอแล้ว เราจึงต้องพยายามรีบลงนามใน แอลโออาร์ ฟอร์ แอลโอเอให้เร็วที่สุด

ส่วนกรณีที่สหรัฐ ปฏิเสธการขายมา ผบ.ทอ.กล่าวว่า เรามีข้อตกลงกับทางกรรมการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ว่าเราต้อง คืน 369 ล้านแรก ส่วนจะดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์แบบใดก็ต่อในปี 2567ก็ต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง ซึ่งกองทัพอากาศไม่สามารถจะนำเงินจำนวนนี้ไปจัดหาเครื่องบินรบอื่นได้เลยในปี 2566 โดยเราจะมีการประเมินเป็นขั้นตอนกันรายเดือน

ส่วนที่มีการถูกโจมตีช่วงพิจารณางบฯ นั้น ตนไม่กดดันเพราะถือว่าทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว ในการซื้อระยะแรกไม่มีอาวุธ เพราะเราถือว่าความทันสมัยคือ อาวุธของเรา โดยใช้อาวุธของกองทัพอากาศที่เรามีอยู่เชื่อมต่อกับเอฟ 35 ได้เลย อย่างไรก็ตาม เราทำเต็มที่แล้ว  เช่นการให้ข้อมูลต่างๆ กับรัฐบาลสหรัฐ ส่วนจะขายให้หรือไม่นั้น ถือว่าเราทำเหตุให้ดีที่สุดส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมรับ

เมื่อถามว่า ต้องมีแผนสำรอง หรือเลื่อนลำดับเครืองบินปลดประจำขึ้นมาปรับปรุงใช้ทดแทนหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ต้องมาดูกันอีกครั้ง ที่ผ่านมาเราทำยุทธศาสตร์ไว้ตั้งปี 2561-2580 ในปี 2563 และมีการปรับปรุงสมุดปกขาวไปแล้วหนึ่งครั้ง ในปี 2566 กองทัพอากาศจะต้องปรับปรุงสมุดปกขาวใหม่ และแจกในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ว่าแผนงานเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้เอฟ 35 ได้มองเครื่องบินรุ่นใดไว้บ้าง ผบ.ทอ. กล่าวว่าตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ยังต้องศึกษาต่อจะคิดคนเดียวไม่ได้ถ้าเขาปฏิเสธการขายก็จะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาว่าแพลนบีจะเพลย์เกมอย่างไรต่อไป
โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณปี 2567เพราะตอนนี้กรอบงบประมาณของกองทัพอากาศค่อนข้างจำกัดคิดว่าผลกระทบจากโควิด และสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศทำให้กรอบงบประมาณ จาก 41,000 ล้านบาท ลงมาเหลือ 36,000 ล้านบาท ลดลงไปประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจเราจึงใช้วิธีการปรับปรุงเครื่องบินรุ่นต่างๆ เช่น c-130 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินหลังการปรับปรุงว่าสมบูรณ์หรือไม่ จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่า  จะให้รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยโน้มน้าวหรือ พล.อ.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่าถ้าได้ก็เป็นสิ่งที่ดีขึ้นอยู่กับความกรุณาของรัฐบาลที่จะช่วยสนับสนุนเราในเรื่องนี้ อีกครั้งขึ้นอยู่กับโอกาสของนายกรัฐมนตรีด้วยว่าจะได้พบกับทางผู้นำของทางสหรัฐหรือเปล่า ซึ่งนายกรัฐมนตรีทราบดีแล้วก็พร้อมสนับสนุนกองทัพอากาศอยู่แล้ว
ส่วนสหรัฐจะมีเงื่อนไขพิเศษที่จะไม่ขายให้เราหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ไม่มีถ้าได้ก็เป็นสิ่งที่ดี เขาจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะเอฟ 35 เป็นอากาศยานที่มีความลับสูง

“โอกาสที่จะได้ ลึกๆ แล้วตอนนี้ก็ 50: 50 เพราะว่าสหรัฐก็ต้องประเมินไทยโดยเฉพาะความสัมพันธ์กับมิตรประเทศที่หลากหลายซึ่งเป็นปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ส่วนการฝึกกับ ทอ.จีนเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ลักษณะของการบาลานซ์ เป็นยุทธศาสตร์การสร้างความสมดุล ซึ่งไม่ใช่ยุทธศาสตร์ความเป็นกลาง ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเน้นย้ำส่วนสหรัฐ จะขายหรือไม่ขายก็เป็นเรื่องของเขา สุดแท้แต่ ไม่มีปัญหา”

เมื่อถามว่า สหรัฐตั้งเงื่อนไขให้เรางดการนำเข้าสินค้าประเทศคู่ขัดแย้งแลกกับการอนุมัติหรือไม่ ผบ.ทอ.กล่าวว่า คงจะตั้งเงื่อนไขกับเราไม่ได้ เรากำหนดจุดยืนของเราเช่นนี้ อยู่ที่ดุลยพินิจของเขาว่าจะขายให้หรือไม่

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์