“ชัชชาติ” ลั่นรัฐ-ปชช.ช่วยกันแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย อย่าดึงการเมืองเกี่ยว

“ผู้ว่าฯ กทม.” กล่าวต้อนรับ “เครือข่ายสลัม 4 ภาค” วันผู้อยู่อาศัยโลก ชี้ “ภาครัฐ-ประชาชน” ต้องช่วยกันแก้ปัญหา อย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง ลั่นคนไร้บ้านแต่ไม่ไร้สิทธิ์

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2565 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวกับผู้เข้าร่วมขบวนเครือข่ายสลัม 4 ภาค เพื่อรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกว่า ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่กรุงเทพมหานคร วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก World Habitat Day ที่อยู่อาศัยถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานหลักที่สำคัญ หากมีที่อยู่อาศัย ชีวิตก็จะมั่นคง ลูกก็จะมีการศึกษา มีการงานทำ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ หน้าที่หลักของหน่วยงานราชการคือการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยอย่างเต็มที่ ในส่วนของกทม.ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของที่สาธารณะ แต่เราเป็นคนดูแลที่สาธารณะ การบริหารจัดการก็จำเป็นต้องดูภาพรวม และทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน

“ชัชชาติ” ลั่นรัฐ-ปชช.ช่วยกันแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย อย่าดึงการเมืองเกี่ยว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นโครงการบ้านมั่นคง ที่มาจากหลายฝ่ายช่วยกัน รัฐเองก็ช่วยตามกรอบอำนาจโดยไม่สร้างภาระ ในส่วนของประชาชนก็ต้องอดออมวันละนิด เริ่มฝึกที่นิสัย เพื่อสร้างชีวิตที่มั่นคง กทม.ยินดีเต็มที่ที่จะช่วยให้พี่น้องทุกคนมีที่อยู่อาศัย แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันด้วยการปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ เป็นนโยบายที่ไม่ซับซ้อน เมื่อมีที่อยู่อาศัยมีบ้านมั่นคง ลูกก็จะมีการศึกษาที่ดี มีการงานที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงด้วย 

ต้องเป็นการช่วยกันทั้งสองฝ่าย ทั้งภาครัฐและประชาชน อย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่ขอให้ทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อให้หาคำตอบให้ได้ ขอย้ำว่าคนไร้บ้านแต่ไม่ไร้สิทธิ์ ไม่ไร้โอกาส กทม.จะหาที่ให้ยืนหยัดและกลับมาสู่สภาพปกติได้ นโยบายไม่พูดการเมืองดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จุดใดที่ได้ก็บอกว่าได้ จุดใดที่ไม่ได้ก็จะบอกว่าไม่ได้ ขอให้แสดงพลังอย่างเรียบร้อยและสันติ กทม.จะดูแลในส่วนของกทม.เป็นหลัก” นายชัชชาติ กล่าว

“ชัชชาติ” ลั่นรัฐ-ปชช.ช่วยกันแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย อย่าดึงการเมืองเกี่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พร้อมกันนี้ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบเอกสารลงนามอนุมัติใช้ที่ดินสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนบึงลำไผ่ เขตมีนบุรี  โดยมีผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ ร่วมเป็นสักขีพยาน