ป.ป.ช.ขอดูคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนควรอุทธรณ์หรือไม่ หลังพ่ายคดีโรงพักทดแทน

ป.ป.ช.ขอดูคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนควรอุทธรณ์หรือไม่ หลังพ่ายคดีโรงพักทดแทน

ป.ป.ช.ขอคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกาฯฉบับเต็มมาดูก่อน หลังพ่าย “สุเทพ-พวก” คดีสร้างโรงพักทดแทน รับไม่ได้ฟ้องประเด็นเรียกรับสินบน เหตุพยานหลักฐานสาวไปไม่ถึง ลุ้นยื่นอุทธรณ์ที่ประชุมศาลฎีกาหรือไม่

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 6 ราย คดีทุจริตฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) ซึ่งมี ป.ป.ช.เป็นผู้ฟ้องคดีเอง

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า เบื้องต้นสำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช.ต้องขอคัดสำเนาคำพิพากษาฉบับเต็มมาพิจารณา และวิเคราะห์ก่อน หลังจากนั้นจึงส่งไปยังที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ตามกฎหมายศาลฎีกาฯฉบับใหม่ เปิดช่องให้โจทก์และจำเลยสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาอีกครั้งได้ เรื่องนี้คงต้องรอดูว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะอุทธรณ์เรื่องนี้หรือไม่

เมื่อถามว่า กรณีนี้ ป.ป.ช.ไม่ได้มีการฟ้องในประเด็นเรียกรับสินบนทำให้พยานหลักฐานอ่อนลงหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เชื่อว่าสำนวนตอนฟ้องทำสมบูรณ์และต่อสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ หรือหากใครมีเบาะแส ข้อเท็จจริงใหม่สามารถส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาเพิ่มเติมได้เช่นกัน ส่วนกรณีเรียกรับสินบน ยอมรับว่าพยานหลักฐานไปไม่ถึง เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับมาเป็นข้อมูลเชิงลึก ไม่มีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน จึงฟ้องเท่าที่มีพยานหลักฐานครบถ้วนเท่านั้น