กลยุทธ์ “สร้างอนาคตไทย” ลุย เรดโอเชี่ยน เศรษฐกิจ นำ การเมือง

กลยุทธ์ “สร้างอนาคตไทย” ลุย เรดโอเชี่ยน เศรษฐกิจ นำ การเมือง

การลงสนามการเมืองของ "สมคิด" ครั้งนี้ จะพา "พรรคสร้างอนาคตไทย" ทะยานไปได้ไกลแค่ไหน ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ เพราะนับจากนี้ไป มีบทพิสูจน์อีกมากมายรออยู่ข้างหน้า

ดูวูบวาบขึ้นทันตาเห็นสำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย หลังจากเฮียกวง หรือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ตอบรับตำแหน่งประธานพรรค เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังมีเสียงรบเร้าอย่างหนักอยากให้ลงมานำทัพ

ด้วยฝีไม้ลายมือของ สมคิด ผู้คนในแวดวงการเมืองและเศรษฐกิจ ต่างรู้ดีว่าชื่อชั้นระดับไหนตรงนี้จึงเป็นผลเหตุสำคัญที่พรรคนี้ต้องมีจอมเก๋าคนนี้ เพราะรู้ดีว่าการจะไปต่อทางการเมืองได้จะต้องมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ในยุคข้าวยากหมากแพง

กลยุทธ์สำคัญของพรรคสร้างอนาคตไทย จึงโฟกัสเรื่องนี้เป็นหลัก และการมาของสมคิด จึงเติมเต็มองค์ประกอบเพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ความได้เปรียบของสมคิด คือความสามารถระดมคนมีความรู้ความสามารถจากที่ต่างๆ เข้ามาทำงานการเมืองได้อย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดตั้งแต่สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ยุคคสช. อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ก็เป็นคนที่สมคิด ผลักดันให้มีบทบาทในคณะรัฐมนตรีมาแล้ว รวมถึงช่วงตั้งพรรคพลังประชารัฐ คนรุ่นใหม่หรือคนที่มีความสามารถจำนวนไม่น้อย ต่างก็ได้รับโอกาส 

นอกจากนั้น เรื่องการสื่อสารของสมคิด ก็นับเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่เรียกความสนใจได้เสมอ การพูดบนเวทีในช่วงหลังดูจะดุเดือดเชือดเฉือน จนผู้มีอำนาจ และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคสะดุ้งกันเป็นแถวมาแล้ว ในอีกมุมหนึ่ง สมคิด เองยังเป็นคนที่สามารถพูดสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจและการลงทุนได้อีกด้วย 

ดังนั้น สร้างอนาคตไทย ที่เน้นภาพลักษณ์ความเป็นพรรคที่จะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยแนวทางการใช้เศรษฐกิจนำการเมือง ลงสู้ศึกในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ที่นับว่าเป็นเรดโอเชี่ยนมีการแข่งขันสูง ลำพังจะอาศัยจุดแข็งเรื่องนโยบายนำจะเพียงพอหรือไม่อย่างไร เพราะหลายฝ่ายต่างตั้งข้อสังเกตว่า สร้างอนาคตไทย มีความเข้มแข็งในเรื่องผู้สมัครส.ส.เขตเพียงใด จะช่วงชิงที่นั่งจากทั้งหมด 400 เขต ได้แค่ไหน รวมถึงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะเข้าป้ายกี่คน 

ปัจจัยเรื่องจำนวนเสียงส.ส.ก็มีความสำคัญ การได้มากหรือได้น้อย จะเป็นปัจจัยชี้วัดด้วยว่านโยบายที่เป็นซิกเนเจอร์ของพรรคที่ใช้หาเสียง จะเกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมได้หรือไม่ 

โดยพื้นที่เป้าหมายอย่างภาคใต้โซนอันดามันแล้ว ยังมีพื้นที่กทม. ที่พรรคหมายตาเช่นเดียวกันความเคลื่อนไหวขณะนี้แกนนำต่างแจกจ่ายปัจจัยว่ากันเป็นรายเดือนให้กับบรรดาว่าที่ผู้สมัครเอาไปใช้ทำพื้นที่กันมาพักใหญ่หลายเดือนแล้ว

ต้องติดตามว่าการลงสนามการเมืองของสมคิดครั้งนี้ จะพาพรรคสร้างอนาคตไทย ทะยานไปได้ไกลแค่ไหน ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ เพราะนับจากนี้ไป มีบทพิสูจน์อีกมากมายรออยู่ข้างหน้า