“สมคิด” อ้างได้กลิ่น “ยุบสภา” ชี้หากดัน “บิ๊กป้อม” แทน “ประยุทธ์” ไม่สง่างาม

“สมคิด” อ้างได้กลิ่น “ยุบสภา” ชี้หากดัน “บิ๊กป้อม” แทน “ประยุทธ์” ไม่สง่างาม

“สมคิด” อ้างได้กลิ่น “ยุบสภา” ปลาย ธ.ค.65-ต้น ม.ค.66 ชี้หาก พปชร.ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯหลัง “บิ๊กตู่” พ้นเก้าอี้ ไม่สง่างาม เหตุเป็น “คนนอก” ทั้งที่ยังเหลือชื่อ “อนุทิน-อภิสิทธิ์” อยู่

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2565 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพ้นจากการปฎิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายแล้วยังสามารถรักษาการต่อได้หรือไม่ว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้ง 35 คนก็จะหลุดจากตำแหน่งด้วย และต้องมีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาปฎิบัติหน้าที่ต่อ ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่วันที่ 30 ก.ย. ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร แต่ก็ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมั่นใจว่าจะได้กลับมา

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการเตรียมรับมือกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องผลจากตำแหน่งก็จะมีการดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นายสมคิด กล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง ก็ต้องมีการสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่ในรัฐสภา เขาก็จะเสนอ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อตามมาตรา 88 เพราะ พปชร.เสนอ พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว หากจะมีการเสนอนายกรัฐมนตรีคนนอกก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ หากจะต้องใช้คนนอกก็ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 คือ 500 เสียง เพื่อบอกว่าให้ยกเว้นรัฐธรรมนูญมาตรานี้ แต่การทำเช่นนี้ ไม่สง่างาม เนื่องจากยังมีชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อยู่

เมื่อถามถึง กรณีที่ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีการบาดหมางกัน โอกาสที่จะยุบสภามีมากน้อยแค่ไหน นายสมคิด กล่าวว่า การยุบสภามีความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้เท่าๆ กัน แต่ตนเชื่อว่าคนที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่จะไม่ยุบสภา เพราะวันนี้สภาปิดไม่มีอะไรมาให้หนวกหู และสภาก็ไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาล ฉะนั้น ในระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่งที่มีการปิดสมัยประชุม จะไม่มีการยุบสภาล้านเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเปิดประชุมสภามาก็จะมีเรื่องของการประชุมเอเปค ซึ่งโดยมารยาทสภาก็จะไม่ไล่รัฐบาล เขาก็จะให้รัฐบาลเดินหน้าประชุมเอเปคให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยไล่

“เรื่องยุบสภาในตอนนี้ผมว่ายังไม่ถึง ผมมองว่าน่าจะเป็นปลายเดือนธันวาคมหรือมกราคม เพราะช่วงนั้นสภาก็จะเข้มข้น และช่วงนั้นองค์ประชุมก็จะล่มบ่อย เนื่องจากรัฐบาลก็กัดหูกันอยู่ ซึ่งเมื่อการประชุมสภาเดินไปหลังเอเปค คนที่จะทำให้องค์ประชุมล่มก็คือรัฐบาล โดยรัฐบาลไม่ให้คนของตนเองมาประชุม เมื่อล่มบ่อย สังคมก็จะโจมตีหนักว่าหากไม่ประชุมกันจะอยู่ทำไม ยุบสภาแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งก็จะเป็นช่วงที่สภาจะครบเทอมในเดือนมีนาคมด้วย เพราะหากมีการยุบสภาจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ไม่เกิน 60 วัน และสมาชิกพรรคต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วัน หมายความว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายคนในพรรคที่จะมีการโยกไปโยกมา ผมว่าจะมีเยอะ พรรคเพื่อไทยก็จะมีเข้าและมีออกเป็นธรรมดา” นายสมคิด กล่าว