“ก้าวไกล” เปิดแคมเปญรีเซ็ตประเทศ ล่า 5 หมื่นชื่อทำประชามติตั้ง สสร.ร่าง รธน.

“ก้าวไกล” เปิดแคมเปญ “รีเซ็ตประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” ล่า 5 หมื่นชื่อตาม พ.ร.บ.ประชามติ ชงนายกฯ จัดพร้อมเลือกตั้งปีหน้า ถามประชาชนให้มี สสร.มาร่าง รธน.ใหม่ ชี้ประหยัดงบ ดักคอ ส.ส.รัฐบาล-ส.ว. เคยรับหลักการให้มี สสร.มาแล้ว

วันที่ 8 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี ที่เสนอโดยภาคประชาชน โดยได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียง 23 เสียง จาก 250 เสียง ตอนหนึ่งว่า ผลการลงมติของรัฐสภาวันนี้น่าผิดหวังเป็นพิเศษ เพราะแม้รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาเยอะมาก แต่ข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นข้อที่พื้นฐานที่สุด และ เป็นมาตราที่ขัดแย้งต่อหลักการประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ในเมื่อไม่สามารถตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ทันการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้ ส.ว. ไม่นำตัวเองเข้ามาเป็นผู้ชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้ง แต่ควรเคารพและยึดตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่จะถูกสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง

นายพิธา กล่าวอีกว่า จุดยืนที่พรรคก้าวไกลประกาศต่อประชาชนมาตลอด คือการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองครั้งนี้ ต้องไม่ใช่แค่ “ปะผุ” หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแล้วจะเพียงพอ แต่ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ที่ผ่านมาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การร่างฉบับใหม่ผ่านช่องทางรัฐสภา เจอทางตันทุกครั้งพรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าต้องหา “ไพ่ใบใหม่” ที่ยังไม่มีใครเคยใช้ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญชื่อ “RESET ประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” ที่จะอาศัยช่องทางตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ 2564 มาตรา 9(5) เชิญชวนประชาชนอย่างน้อย 50,000 คน ร่วมลงชื่อเสนอต่อ ครม. ให้มีการจัดทำประชามติเพื่อถามประชาชน 1 คำถามสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน?” โดยจะเริ่มรณรงค์ทันทีจนกว่าได้รายชื่อครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

“เพื่อประหยัดงบประมาณ และเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนกติกาประเทศ เราจะเสนอให้จัดประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะต้องเกิดขึ้นไม่เกินเดือน พ.ค. 2566” นายพิธา กล่าว

“ก้าวไกล” เปิดแคมเปญรีเซ็ตประเทศ ล่า 5 หมื่นชื่อทำประชามติตั้ง สสร.ร่าง รธน.

นายพิธา กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าวิธีการนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และ ไม่ควรมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ถูกคัดค้าน โดยมีเหตุผล 5 ข้อ ได้แก่

(1) เป็นหนทางที่จะนำพาประเทศออกจากวิกฤตทางการเมือง นำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริง โดยไม่ต้องง้อเสียงเห็นชอบจาก ส.ว.

(2) เป็นแนวทางที่รัฐบาลปฏิเสธยาก เพราะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. เป็นสิ่งที่ ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. เคยสนับสนุน และการจัดประชามติก็เป็นไปตามความเห็นของ ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. ที่เคยอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความว่าต้องจัดทำประชามติก่อนเสนอเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้าสู่สภาในขั้นรับหลักการ

(3) เป็นการทวงถามและเรียกความรับผิดชอบโดยตรงจาก นายกฯ และ ครม. ว่าจริงใจแค่ไหนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากที่เคยประกาศว่าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

(4) เป็นการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนโดยตรง เพราะหากมีการจัดทำประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง และประชาชนเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะมาจากขั้วไหน ก็ต้องดำเนินการตามคำสั่งของประชาชนที่แสดงออกผ่านผลประชามติ 

(5) ช่วยประหยัดงบประมาณและทรัพยากรของประเทศ เพราะจัดการเลือกตั้งและจัดประชามติในวันเดียวกันได้เลย

“พรรคก้าวไกลต้องขอแรงสนับสนุนจากประชาชน อย่าเพิ่งถอดใจ มาลงชื่อกับเรา ส่งแรงกดดันไปยังรัฐบาลให้จัดประชามติ และคืนประเทศให้ประชาชน เพื่อให้ปลายทางในปีหน้า เราจะมีความหวังได้ว่ามีสิ่งที่ดีกว่ารอเราอยู่ คือคนไทยจะได้เลือกตั้งใหม่ ได้เริ่มนับหนึ่งสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนฉบับใหม่ และมีโอกาสร่วมสร้างอนาคตใหม่ของประเทศไทยอีกครั้ง พี่น้องประชาชนที่สนใจร่วมสร้างอนาคตประเทศไทยสามารถลงชื่อได้ที่ https://www.resetthailand.org” นายพิธา กล่าว