จับตาสภาฯโหวต "พ.ร.บ.กัญชาฯ" วาระสาม 14ก.ย.นี้ กมธ.ยันอุดช่องโหว่

ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา บัดนี้คณะกมธ.ฯพิจารณร่างกฎหมายดังกล่าวครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมเสนอต่อที่ประชุมสภาฯในวาระ 2 – 3 แล้ว โดยบรรจุในระเบียบวาระการพิจารณาวันที่ 14 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวถูกปรับเพิ่มเป็น 95 มาตรา ผ่านการรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างสมบูรณ์เป็นประโยชน์ทุกมิติ เราคาดหวังว่าสภาฯจะให้การสนับสนุน เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ

 ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า ร่างนี้มีหลักการสำคัญ คือ การแยกกิจกรรมส่วนที่เป็นยาเสพติดกับไม่ใช่เป็นยาเสพติดออกจากกัน โดยสารที่มีความสำคัญที่ทำให้มึนเมาหรือสาร THC ถ้าต่ำกว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดกำหนด จะไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด

ขณะเดียวกัน ตัวพืชกัญชา กัญชง ก็ไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกัญชาจะคุมสัดส่วนช่อดอกเป็นกรณีพิเศษ ขณะที่ส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ช่อดอก เช่น ราก ลำต้น เมล็ด จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

กฎหมายฉบับนี้ยังแยกกิจกรรมส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรออกจากกระบวนการพิจารณากัญชง กัญชา คือ ผลิตภัณฑ์ใดเป็นสมุนไพรให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.เกี่ยวกับอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอางให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องเครื่องสำอาง ซึ่งกฎหมายเหล่านั้นควบคุมสารมึนเมาสูงมาก จึงเชื่อมั่นว่าจะควบคุมได้

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าในส่วนการจดแจ้งของสถานพยาบาลทั้งหมด ซึ่งสามารถปลูกเพื่อรักษาคนไข้เฉพาะรายได้ เป็นเสรีทางการแพทย์อย่างแท้จริง

ขณะที่การขอนุญาตต้องเป็นคนไทยหรือนิติบุคคลไทย โดยไม่เปิดช่องให้นิติบุคคลต่างชาติ ดังนั้น จะเป็นประโยชน์สำหรับคนไทยทุกคน

อีกทั้งร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้การประกอบธุรกิจกัญชา กัญชง เป็นไปเพื่อลดความเหลื่อล้ำ และไม่ให้ผูกขาดของกลุ่มทุน ฉะนั้น ขอให้ประชาชนวางใจว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านการพิจารณามาอย่างรอบคอบรัดกุม เราคาดหวังว่าส.ส. และส.ว. จะพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งเรามั่นใจว่ากฎหมายฉบับนี้จะดีกว่าสถานภาพปัจจุบันอย่างแน่นอน