“ไอติม พริษฐ์” ชำแหละงบปี 66 กระจายให้บางจังหวัดที่มี “รัฐมนตรี”

“ไอติม พริษฐ์” ชำแหละงบปี 66 กระจายให้บางจังหวัดที่มี “รัฐมนตรี”

“ไอติม พริษฐ์” ชำแหละงบประมาณปี 66 กระจายให้คนบางจังหวัดที่มี “รัฐมนตรี” ชี้ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ เผยงบทำถนน-ปรับปรุงแหล่งน้ำ กระจายอยู่ไม่กี่แห่ง สะท้อนจัดสรรงบเพื่อประโยชน์การเมือง

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล อภิปรายสงวนคำแปรญัตติ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ในมาตรา 4 ภาพรวม โดยเสนอให้พิจารณาปรับลดงบประมาณของประเทศลง 5%

โดยนายพริษฐ์ ตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณปี 2566 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท มีลักษณะของการใช้เงินผิดจุด ยังไม่ตอบโจทย์ ไม่จำเป็น และไม่เป็นธรรม โดยยกตัวอย่าง โครงการซ่อมแซมถนน และโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ ซึ่งรวมกันทั้งประเทศแล้วมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมดว่า มีความกระจุกตัวในบางจังหวัดอย่างชัดเจน ในส่วนของโครงการซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท พบว่า 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันเป็นสัดส่วนถึง 25% ของงบประมาณซ่อมแซมถนนทั้งประเทศ ขณะที่โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมชลประทาน 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันถึง 36% ของงบประมาณปรับปรุงแหล่งน้ำของทั้งประเทศ

นายพริษฐ์ ระบุว่า เมื่อลงไปดูรายละเอียดในงบซ่อมถนน จะเห็นได้ว่า 7 จังหวัดที่ได้รับงบประมาณสูงสุด คือจังหวัดที่มี ส.ส. เขต มาจากพรรคที่ รมว.คมนาคมสังกัดอยู่ทั้งหมด ขณะที่งบปรับปรุงแหล่งน้ำ จะเห็นได้ว่า 7 จังหวัดที่ได้รับงบประมาณสูงสุด คือจังหวัดที่มี ส.ส. เขต มาจากพรรคที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์สังกัดอยู่ถึง 3 จาก 7 จังหวัด หรือคิดเป็น 43%

“ตัวเลขไม่โกหกใคร และคำถามที่ประชาชนอดสงสัยไม่ได้ คือรัฐบาลได้จัดสรรงบโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของทุกคนอย่างเป็นธรรม หรือจัดสรรงบบนพื้นฐานของผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองกันแน่” นายพริษฐ์ ระบุ

“ไอติม พริษฐ์” ชำแหละงบปี 66 กระจายให้บางจังหวัดที่มี “รัฐมนตรี”

นายพริษฐ์ ระบุด้วยว่า การจัดสรรงบประมาณ ยังขาดการจัดลำดับความสำคัญ และการคำนึงถึงปัญหาภาพใหญ่ของประเทศ มีการจัดสรรออกเป็นโครงการเล็ก ๆ จนกลายเป็นเบี้ยหัวแตกจำนวนมากกว่า 2,500 โครงการ ที่มากกว่า 70% เป็นโครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 100 ล้านบาท และไม่มีการจัดสรรเพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ 2 วิกฤติสำคัญในอนาคต คือปัญหาสังคมสูงวัย และปัญหาภาวะโลกร้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต