นายกฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่

นายกฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ กำชับหน่วยงานเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ย้ำป้องกันบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนทันที โดยรัฐบาล-ภาคส่วนต่าง ๆ จะช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังฉับพลันจาก ฝนตกหนัก ในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ

โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ล่าสุด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และหนองคาย ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,390 ล้าน ลบ.ม. (55%)

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 20-24 ก.ค. เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และยะลา รวม 20 อำเภอ 29 ตำบล 65 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 392 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (ชลบุรี) ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยได้เน้นย้ำให้ ปภ. จังหวัด หน่วยทหาร ส่วนราชการ ป้องกันและบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนทันทีเมื่อเกิดภัยตามที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้คลี่คลายสถานการณ์ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง

พร้อมทั้งให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจและประเมินความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบของทางราชการต่อไป

“นายกรัฐมนตรีกำชับว่าในช่วงฤดูฝนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้ความสำคัญกับการเก็บขยะและวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำไหล เพื่อเตรียมพร้อมเร่งระบายน้ำฝนที่ตกลงมาให้น้ำไหลได้สะดวก พร้อมแนะให้ประชาชนที่อยู่บนเส้นทางน้ำหลาก เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เก็บของไว้บนที่สูงเพื่อความปลอดภัย ให้ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ ระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง

โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารประกาศจากทางราชการ และทางแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศทางโทรศัพท์มือถือ ที่ในปัจจุบันสามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้อย่างรวดเร็ว มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมตนเองได้ในเบื้องต้นด้วย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่” นายธนกร กล่าว