"สมชาย" ขอ "กมธ.กม.ลูก" ถกนอกรอบ แก้มาตราเกี่ยวข้องสูตรคำนวณส.ส.

        นายสมชาย แสวงการ ส.ว.  ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ... รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลต่อเนื้อหาในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่เสียงข้างมากของรัฐสภา แก้ไขสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยแทนจำนวน 100 คน และมีผลกระทบเกี่ยวโยงไปมาตราอื่นๆ ตามที่กมธ.เสนอรายงานต่อรัฐสภา ว่า ตนเสนอให้กมธ.หารืออย่างไม่เป็นทางการผ่านทางกลุ่มไลน์ ให้นัดประชุมก่อนที่รัฐสภาจะนัดพิจารณาในร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวต่อเนื่องในวันที่ 26 - 27 กรกฏาคม เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นยุ่งยาก จนต้องพักการประชุมเหมือนร่างกฎหมายหลายฉบับก่อนหน้านี้ แต่กมธ.ที่อยู่ในกลุ่มไลน์ไม่เห็นด้วย ดังนั้นต้องรอให้การประชุมรัฐสภาเกิดขึ้น และให้ที่ประชุมพิจารณาปัญหา

           "หลังจากรัฐสภาเห็นชอบให้แก้ไขมาตรา 23 แล้ว จะมีมาตราต่อเนื่องต้องแก้ไขเพื่อไม่ให้กฎหมายขัดกันเอง ผมเข้าใจว่าฝ่ายเสียงข้างน้อยต้องไปยกร่างปรับปรุงมา และที่ประชุมรัฐสภาก็ต้องพักการประชุมเพื่อให้ กมธ. ไปหารือปรับปรุงร่าง ส่วนจะเป็นเสียงข้างมากหรือข้างน้อย ต้องโหวตในที่ประชุมรัฐสภาต่อไป" นายสมชาย กล่าว

       นายสมชาย กล่าวว่ากรณีที่มีสมาชิกรัฐสภาบางคนอภิปรายว่า เมื่อร่างพ.ร.ป.พิจารณาเสร็จต้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญอัตโนมัติ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะตามขั้นตอนคือ ส่งให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ความเห็น หากมีความเห็นแย้งต้องส่งกลับรัฐสภาให้ปรับแก้ ถ้ารัฐสภาไม่ปรับ อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างสององค์กร และอาจส่งไปตีความที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ถ้ากกต.ไม่แก้ไข   กลุ่มที่เห็นต่างที่เป็นสมาชิกรัฐสภาสามารถยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก่อนนายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯ  5 วัน  

        นายสมชาย กล่าวด้วยว่าตนเชื่อว่าร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. จะประกาศใช้ได้ทันสภาฯ สมัยนี้หากอยู่ครบวาระ แต่หากเกิดอุบัติเหตุภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนกรกฎาคม ร่างกฎหมายลูกจะไม่ทันใช้กับการเลือกตั้งจะถึงนี้

         "ผมเชื่อว่านายกฯจะไม่ยุบสภา เพราะมีภารกิจสำคัญคือเจ้าภาพการประชุมเอเปค ช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่วนสภาฯจะอยู่ไปได้จนถึงพฤศจิกายน หรือ ต้นปี66  หากรัฐสภาร่วมมือช่วยกันให้กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2ฉบับผ่านการพิจารณาก็จะใช้ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้าเราไม่ร่วมมือกันและขัดกันเองด้วยเหตุใดก็แล้วแต่  อาจต้องตราเป็นพระราชกำหนด" นายสมชาย กล่าว

          เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายบริหารออกพ.ร.ก.เอง ก็จะมีบางฝ่ายมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายบริหารเองเพื่อชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ใครเป็นฝ่ายค้านก็มองแบบนั้น แต่ตนเชื่อว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องการให้ร่างพ.ร.ป.ที่จะใช้เลือกตั้งพิจารณาสำเร็จลุล่วง.