"วันชัย" เชื่อ มีพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ถอนตัวตาม "ธรรมนัส" เริ่มปฐมบทมฤตยู

"วันชัย" เชื่อ มีพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ถอนตัวตาม "ธรรมนัส" เริ่มปฐมบทมฤตยู

"วันชัย" ชี้ "ธรรมนัส" ถอนตัวร่วมรัฐบาล ปฐมบทมฤตยู ทำการเมืองไม่นิ่ง เชื่อมีพรรคเล็ก เดินตาม "ธรรมนัส" -สร้างเกมต่อรองศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

         นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสนามข่าว101 ถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ถอนตัวเด็ดขาดจากการร่วมรัฐบาล ว่าจะเป็นปฐมบทที่ทำให้การเมืองในช่วงเดือนกรกฏาคม จนถึงสิ้นปี2565 ไม่นิ่ง เพราะกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พาส.ส.เศรษฐกิจไทย 16เสียงถอนตัว ก่อนหน้านี้มีบอกว่าฝากเลี้ยงไว้อีก 20 เสียงและรวมเสียงพรรคเล็กอีก 20 เสียง อาจสร้างแรงสั่นสะเทือน เพราะพรรคเล็กที่ไม่มี ส.ส.ใหญ่ บางคนหวังจะทำงานการเมืองต่อ และบางคนคิดว่ามีสิทธิ มีเสียงเป็น ส.ส.ได้ ต้องคิดว่าคราวหน้าจะได้รับเลือกตั้งดังนั้นต้องแสดงบทบาทบางอย่างเพื่อให้ประชาชนเลือก

 

 

         "คนที่คิดแบบนี้มีสิทธิเปลี่ยนในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใน 10พรรคเล็ก ที่มีส.ส.ประมาณ 20 เสียง มีสิทธิเปลี่ยนชัดเจน เหมือนกับร.อ.ธรรมนัสได้ แต่ขณะที่บางคนประเมินว่าไปต่อ แต่รอไม่ได้ ต้องเอาปัญหาเฉพาะหน้าให้ตนเองรอ แม้จะไม่ได้ลงเลือกตั้งหรือไม่ได้เป็นส.ส. แต่ต้องทำอะไรเพื่อให่ได้อะไร มีการแลกเปลี่ยน ผมเชื่อว่าพรรคเล็กจะชี้วัด ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ อาจมีการแยกตัวบางส่วน ต้องแสดงจุดยืน เมื่อมีข่าวงูเห่าเข้าและงูเห่าออก การแสดงความชัดเจนทางการเมือง ที่เหลือเวลาอีก 2 ไตรมาสต้องเกิดขึ้น นั่นจะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเชื่อว่าจะเร่าร้อนและอาจเห็นการเคลื่อนไหวชนิดที่ไม่เคยเป็น” นายวันชัย กล่าว

         นายวันชัย กล่าวด้วยว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม เดือนสิงหาคม จนถึงวันที่ 18 กันยายน ที่เป็นวันปิดสมัยประชุม อาจเกิดปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยสิ่งที่เป็นจุดเร่ิมคือ การพลิกสูตรคำนวณ ส.ส. ด้วยจำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน 100 คน ทั้งที่เจตนาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเขียนกฎหมายซึ่งปรับให้เป็นบัตรเลือกตั้ง2ใบ มี 400 เขตและมี 100 บัญชีรายชื่อ ดังนั้นต้องใช้ 100 คนหาค่าเฉลี่ย ไม่ใช่ 500 คน ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย

 

 

 

         "ในความเห็นทางกฎหมาย บอกว่าให้เคารพเสียงส่วนใหญ่  ผมเคารพ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ เพราะความเห็นผมที่ยืนยันว่ารับฟังมาโดยตลอด คือ ต้องใช้จำนวน100คนหาค่าเฉลี่ย  แต่เมื่อถึงเวลาจะผิดเพี้ยนหรือบิดเบี้ยว ไม่ตรงไปตรงมา ล้วนมีปัจจัยทำให้เลื่อนไหว เหมือนตอนที่ทำกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ที่ในการทำยอมรับความผิดทางการเมืองได้ แต่เมื่อเข้าสภาฯ แก้ในสภาฯ ให้คดีทุจริต คอร์รัปชั่นด้วย ทำให้ไปไม่ได้ หรือกรณีการแก้ไขให้ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองเพื่อพ้นตำแหน่งแล้ว สามารถลงสมัครเป็น ส.ว.ได้ทันที เรื่องเหล่านี้จะเป็นปฐมบทของมฤตยู” นายวันชัย กล่าว