"นิพนธ์" โวยกลับ ป.ป.ช.กล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล หลังฟ้องศาลคดีทุจริตฯกลาง

"นิพนธ์" โวยกลับ ป.ป.ช.กล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล หลังฟ้องศาลคดีทุจริตฯกลาง

“นิพนธ์” โวยกลับ ป.ป.ช. กล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล เตือนระวังให้ข่าวใส่ร้ายให้เสียหาย แนะสืบประวัติดูได้ ไม่เคยทำผิดกฎหมาย หลังมีมติเสียงข้างมาก ฟ้องคดีไม่จ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้าน ส่งศาลอาญาคดีทุจริตฯกลาง แทนที่จะเป็นภาค 9

กรณีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา มีมติให้ฟ้องคดีอาญาแก่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด โดยมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ยื่นฟ้องคดีนี้แก่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แทนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 และขอให้ศาลฯมีคำสั่งให้นายนิพนธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ รมช.มหาดไทย หลังจาก ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีด้วย

โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า สำนักคดี ของ ป.ป.ช. ดำเนินการฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แทนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 เนื่องจาก อาจจะเกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลในพื้นที่ และต้องการปกป้องพยาน อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยก็อยู่ในส่วนกลางสามารถฟ้องได้

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2565 นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วกับการทำงานของ ป.ป.ช.ประวัติตนไม่เคยปรากฏเรื่องการเป็นผู้มีอิทธิพล และอาจจะเป็นคดีแรกที่มีการฟ้องนอกเขตอำนาจศาล การกล่าวหาว่าตนมีอิทธิพล ถือว่ามีความเสียหาย การพูด หรือให้ข่าวใส่ร้ายควรระมัดระวัง ทั้งนี้เหตุเกิดในพื้นที่ภาค 9 ปกติเมื่อเหตุเกิดในภาค 9 มีเขตอำนาจศาลอยู่แล้ว พยานหลักฐานทุกอย่างอยู่ในภาค 9 ควรดำเนินคดีในภาค 9

“ยืนยันว่าผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไปสืบดูได้ในจังหวัดสงขลา หรือในภาค 9 ไม่เคยสนับสนุนการทำผิดกฎหมาย ไม่เคยค้าขายของผิดกฎหมาย บ่อนการพนันไม่เคยเปิด คนให้ข่าวต้องระมัดระวังด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ไม่ประสงค์จะทะเลาะกับ ป.ป.ช.เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่อยากจะขอความเป็นธรรม เมื่อเรื่องมันเกิดในพื้นที่ภาค 9 การฟ้องร้อง จับกุมคดีฮั้วประมูลศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ก็ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น

“ป.ป.ช.เองก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล และนิติบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูลในเขตภาค 9 ผู้ต้องหาบางคนหลบหนีไปต่างประเทศ บางคนโดนจับกุม ศาลไม่ให้ประกันตัวยังนอนอยู่ในเรือนจำ ทำไม ป.ป.ช.ทำเหมือนไม่เชื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มันเกินข้อเท็จจริงไป” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เวลาจะกล่าวหาใครว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นการกล่าวใส่ร้ายต้องระมัดระวัง ผมมีตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย พรรคเขาเสียหายด้วย