"กมธ.งบฯ66" ลุยถกงบ 15 วัน คืบหน้า 22.2% ผ่าน6กระทรวง

"กมธ.งบฯ66" ลุยถกงบ 15 วัน คืบหน้า 22.2%  ผ่าน6กระทรวง

โฆษก กมธ.งบฯ66 เผยความคืบหน้าการพิจารณา 22.2% ผ่าน 6 กระทรวง ระบุระหว่างพิจารณา ฝากปัญหาชาวบ้านให้หน่วยงานรับไปแก้ไข

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2566  

 

          โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย โฆษกกมธ. แถลงว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน  กมธ. พิจารณางบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน  7,556,489,900 บาท ทั้งนี้มีกมธ.ฯบางคนสอบถามถึงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับความตกลงที่ครอบคลุมและความก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP  โดยผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานกนศ. เพื่อขับเคลื่อนเกี่ยวกับความตกลง CPTPP โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ในปัจจุบันคณะกรรมการฯ กำลังรอให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ นำข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวของหน่วยงานต่างๆ และนำร่างกรอบเจรจาเข้าสู่ที่ประชุมกนศ.สรุปผล เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

 

          น.ส.จิราพร กล่าวด้วยว่า  กมธ.ฯได้ใช้เวลาในการพิจารณางบประมาณมาแล้วทั้งหมด  15 วัน รวม 136 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวม 6 กระทรวง 4 หน่วยงาน 5 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 22.2 ของหน่วยงานที่ต้องพิจารณาทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ 

        ทางด้านนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย  โฆษกกมธ.  กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกมธ. ยังพิจารณางบประมาณภาพรวมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งมีกมธ.ส่วนใหญ่ท้วงติงเรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเสนอแนะและสะท้อนว่ามีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก และกมธ.สะท้อนว่า เมื่อประชาชนถูกหลอกให้โอนเงินแล้วจะมีการโอนเงินจากบัญชีที่รับโอนภายใน 5 นาที ส่วนใหญ่จะมีการโอนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อที่จะไม่ให้เหยื่อสามารถไปทำธุรกรรมได้เหมือนวันปกติ และปกติคนไทยมีซิมโทรศัพท์เพียงแค่ 1-2 ซิม แต่จากการตรวจสอบบางคนมีเบอร์โทรศัพท์ 4,000   ซิม หรือ 5,000 ซิมบ้าง นี่คือสิ่งที่กมธ.ต้องการให้กระทรวงดีอีเอสรีบไปดำเนินการ

        นายณัฏฐ์ชนน กล่าวต่อว่า ด้านผู้แทนจากกระทรวงดีอีเอสชี้แจงว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่แก๊งระดับประเทศ แต่เป็นมิจฉาชีพข้ามชาติที่มีหลายประเทศตกเป็นเหยื่อ โดยแก๊งเหล่านี้จะอยู่บริเวณชายแดนประเทศไทย เพื่ออาศัยเสาสัญญาณโทรศัพท์ของประเทศไทยทุกเครือข่ายเอื้อประโยชน์ แม้ว่าจะใช้การโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงใช้วิธีการปิดกั้นทางการเงิน.