"นายกฯ" โวย "ฝ่ายค้าน" ใช้เวทีอภิปราย งบฯ66 หาเสียง เตือนอย่าทำผิดเวที

"นายกฯ" โวย "ฝ่ายค้าน" ใช้เวทีอภิปราย งบฯ66 หาเสียง เตือนอย่าทำผิดเวที

"นายกฯ" ตอก "ฝ่ายค้าน" ฉวยเวทีอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ66 หาเสียง พร้อมแจงรายละเอียดข้อกล่าวหา ย้ำทำนโยบายฟังเสียงหน่วยงาน ก่อน "พิธา-ชลน่าน" ประสานเสียงประท้วงนายกฯ

           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระแรก ในวันที่สอง ว่า ตนฟังการอภิปรายของส.ส. ขอขอบคุณในคำอภิปรายของ ส.ส. ซึ่งตนเข้าใจดีและคิดว่ามีความมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวหน้าเติบโต  แต่จากการฟังอภิปราย ช่วงเช้า วันนี้ (1 มิถุนายน) นั่งฟังไปงงๆ ว่าเป็นการพิจารณางบประมาณ ปี 66 หรือ งบของพรรคการเมืองใหม่ ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลเวลานี้ ดังนั้นอย่าใช้โอกาสหาเสียง ผิดเวที

 

 

 

           พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงยืนยันต่อการจัดสรรงบประมาณ ในร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ด้วยว่า ต้องการแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้ารายครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สถานการณ์ตอนนี้ที่ต้องมองร่วมกันคือ ทำอย่างไรให้อยู่รอด รัฐบาลขณะนี้ลำบากไม่ใช่สบาย ทุกคนทำงานเต็มที่ ที่ปรากฎคือมีผลสำเร็จหลายอย่าง หากพูดว่า ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่เป็นธรรม ประชาชนจะไม่เข้าใจสำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐ ขณะนี้ไม่ได้เพิ่มอัตราภาษี ยังเก็บที่ 10% เพราะไทยยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ กรณีที่มีการอภิปรายบอกว่ารัฐบาลหารายได้ไม่เป็นขอให้มองย้อนไป หลายปีที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาล สิ่งที่ทำคือ สร้างโอกาสและความเท่าเทียม ขณะเดียวกันได้สร้างการลงทุนต่างๆ วางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  เพื่อแก้ปัญหาบริหารราชการ โควิด-19 และเตรียมใช้ในการแก้ปัญหาการบริหารราชการ

           “การวางโครงสร้างต้องทำกฎหมายใหม่ แก้กฎหมายหลายฉบับ ไม่ใช่นึกจะทำ ก็ทำได้หมด ต้องอยู่บนระเบียบกฎหมาย ปฏิรูปกฎหมาย หากกฎหมายใดเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน ต่อประชาชนขอให้ช่วยผ่านเร็วๆ อย่าขัดแย้งกัน ขณะที่มีข้อเสนอเกี่ยวกับการลดข้าราชการ ผมให้นโยบายแล้วต้องลด การบรรจุข้าราชการใหม่ ซึ่งอยู่ในแผนของก.พ.” พล.อ.ประยุทธ์  อภิปราย

 

           พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อการหารายได้ไม่เป็น ต้องรีดภาษี  ด้วยว่า  ตนรีดใครหรือยัง ทั้งนี้ในการหารายได้ให้กับประเทศต้องใช้ระบบดิจิทัล เชื่อมการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ มีขั้นตอนเจรจาต่อรอง  สิ่งที่ตนพูดไม่มีใครฟัง หาทางโจมตีให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะตามหมด ทั้งนี้ต้องให้ประชาชนเลือก  ว่าจะมีส่วนร่วมกับรัฐบาลอย่างไร ส่วนการใช้งบประมาณ เช่น งบกลาง สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ตนเป็นนายกฯ 8 ปีรู้ว่าเป็นอย่างไร ตนถูกครอบงำ หรือ ถูกสั่งการหรือไม่ ขออย่าพูดเรื่องดังกล่าวกับตน

 

           "หากท่านได้เป็นรัฐบาลต้องทำแบบผม เพื่อให้ประชาชนร่วมมือ ผมไม่โทษใคร แต่หลายอย่างต้องร่วมมือ เข้าใจคำว่าร่วมมือหรือไมม่ สิ่งที่ไม่ดี ไม่เห็นด้วยรับไปพิจารณา ส่วนการทำงบประมาณ รับมาจากส่วนท้องถิ่น จังหวัด กระทรวง ทบวง กรม สภาพัฒนาสังคมและเศรษบกิจแห่งชาติ เพื่อกำหนดเป็นงบประมาณ ขณะที่ร้ฐบาลกำหนดเป็นนโยบายเพื่อสอดคล้อง ผมไม่ปฏิเสธโครงการที่รับเข้ามา เมื่อหน่วยงานข้างล่างเสนอ รัฐบาลต้องตรวจสอบ คัดกรอง ไม่เช่นนั้นติดคุกครับ” พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าา พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงในหลายประเด็นที่ถูกอภิปรายพาดพิงในงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์และไม่แก้ปัญหาประชาชน ก่อนทิ้งท้ายว่า “ผมพอแค่นี้ หากจะให้ผมพูด สามารถพูดได้ทั้งวัน เพราะผมทำเอง ทำกับมือ ใช้คณะทำงานเป็นร้อย มีคณะทำงานจากข้างล่าง  ไม่ใช่คิดคนเดียว หรือคิดสิบคน ยังไม่ต้องประท้วงผมตอนนี้ ขอบคุณ สวัสดีครับ”  จากนั้นได้ลุกออกจากห้องประชุมทันที

 

 

 

           จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิพาดพิง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ในข้อกล่าวหาว่าสภาฯ ถูกใช้เป็นเวทีหากเสียง โดยพรรคการเมืองที่ไม่เป็นรัฐบาล ข้อเท็จจริงเป็นเวทีพิทักษ์ภาษีประชาชน หากจะติอย่างเดียวไม่มีสิ่งใหม่นำเสนอ จะถูกมองว่าใช้เป็นเวทีการเมือง ดังนั้นจึงนำเสนอสิ่งใหม่ และตัวอย่างจากต่างประเทศเพื่อให้รัฐบาลได้เห็น และไม่ต้องกลัว หากถึงเวลาของพวกตนเมื่อไร ทำแน่นอน

 

            ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประท้วง นายกฯ ด้วยว่า นายกฯ กล่าวหาสภาฯ ให้ร้าย ป้ายสี สภาฯ ทำให้สภาฯ เสียหาย หากตีความคำพูดของนายกฯ คือ รัฐสภาผิดทั้งหมดต่อการเปรียบเทียบการทำงบประมาณ ทั้งนี้ในหน้าที่ของสภาฯ คือ สามารถปรับลดงบประมาณ และอนุมัติงบประมาณ

 

           “นายกฯ ไม่ควรแสดงภาวะโยนผิดให้คนอื่น แม้หน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติยังล่วงเกิน ไม่เหมาะจะเป็นนายกฯ หากจะตอบในสภา ฝากบอกคนเขียนโพยอย่าเขียนโดยใส่อารมณ์มาด้วย เพราะทำให้นายกฯ ตอบมีอารมณ์” นพ.ชลน่าน อภิปราย