“ธรรมนัส” ลุยปิดฉาก“ประยุทธ์” "กบฎการเมือง"ภาคอวสาน ?

“ธรรมนัส” ลุยปิดฉาก“ประยุทธ์”  "กบฎการเมือง"ภาคอวสาน ?

นับต่อจากนี้ เกมโค่นนายกฯ ของ “ร.อ.ธรรมนัส” จะเดินแรง รุกไว ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็พร้อมตั้งรับและตอบโต้ ระหว่างสองอดีตทหาร คนหนึ่งคือต้นแบบของกองทัพ ส่วนอีกคนคือความด่างพร้อย แต่ต้องมาบรรจบในสนามการเมืองที่มี “เก้าอี้นายกฯ” เป็นเดิมพัน

นาทีนี้คงไม่มีใครมาหยุดยั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้อีกแล้วหลังเกิดปฏิบัติการหักดิบ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เพื่อนรัก ลูกพี่เก่า “เสธไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต นายทหารโด่งดังที่ยังให้ความเคารพนับถือแม้จะล่วงลับไปแล้ว

ชีวิต “ร.อ.ธรรมนัส” เข้าสู่ยุคมืดหลังตัดสินใจก้าวออกจากชีวิตรับราชการ ในกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 4 รอ.) ยุคบุกเบิกสังกัดหน่วยบัญชาการถวายการรักษาความปลอดภัยสมัย “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น ผบ.ทบ. จนได้ชื่อว่า ทหารนอกแถว ของเตรียมทหารรุ่น 25 (ตท.)

ก่อนจะมาเจอกับสองผู้เปี่ยมบารมีในวงการคนมีสีที่เหมือนชุบชีวิต “ร.อ.ธรรมนัส” หนึ่งในนั้นคือ “เสธแอ๊ว” พล.อ.อัครเดช ศศิประภา และ “เสธไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ จนกลายเป็นผู้กว้างขวาง ทำธุรกิจหลากหลาย แม้บางครั้งชีวิตเฉียดคุกเฉียดตาราง แต่ก็รอดพ้นมาได้ทุกครั้ง

แม้ “ร.อ.ธรรมนัส” จะรับราชการทหารเพียงเวลาสั้นๆ แต่ความผูกพันกับเพื่อนร่วมรุ่น ตท.25 นักเรียน จปร. 36 ยังคงแน่นแฟ้น เพราะปัจจุบัน “ร.อ.ธรรมนัส” ควบสองตำแหน่ง ทั้ง ประธาน ตท.25 และ ประธาน จปร.36 ที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกไปหยกๆ เมื่อ 14 พ.ค.2565 ต่อเนื่อง 2 สมัยซ้อน

จึงมักได้เห็น “ร.อ.ธรรมนัส” มีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมกับเพื่อนร่วมรุ่นเป็นระยะ เช่น พล.ต.นรเศรษฐ์ พงษ์เจริญ พล.ต.ประเชิญ ไชยกิจ น.อ.ณัฐพงค์ ญาโณทัยขจิตต์ พล.อ.ต.ศรสิต กีรติพล พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา

ส่วนเพื่อนอีกคนที่กำลังเป็นหน้าเป็นตา ตท.25 เพราะเข้าไลน์ 5 เสือ ทร. พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ น้องชาย“ บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

ขณะเดียวกัน “ร.อ.ธรรมนัส” ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ “เสธเปา” พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารผู้ล่วงลับเหตุชุมนุมทางการเมือง และ “เสธหิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ทั้งสองเป็น “น้องรัก-คนใกล้ชิด” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ ร.อ.ธรรมนัส หวังโค่นล้ม โดยอ้างเสียงประชาชนที่อยากเปลี่ยนผู้นำ

15 กรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจไทย นำโดย บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ พร้อมใจกันยื่นหนังสือลาออกและส่งผลให้ “พล.อ.วิชญ์” พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนับจากนี้ไปอีก 45 วันจะมีการปรับโครงสร้างพรรคใหม่ “ร.อ.ธรรมนัส” ส่งสัญญาณชัด พร้อมก้าวขึ้นมาเสียบแทน

เพราะก่อนหน้าที่ “ร.อ.ธรรมนัส” พร้อมก๊วน 18 ส.ส.จะแยกตัวมาจากพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะรับปากกับ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้า พปชร. ว่าจะสนับสนุนและยืนข้างรัฐบาล แต่ “ร.อ.ธรรมนัส” มีธงชัดเจนคือ ไม่เอา “พล.อ.ประยุทธ์”

ส่วน “พล.อ.วิชญ์” ก็เรียกได้ว่า ซ้ายหัน ขวาหัน ขอแค่เป็นความต้องการของ “บิ๊กป้อม” ก็พร้อมปฏิบัติแบบไม่เกี่ยงงอน ทั้งกรณีห้าม ร.อ.ธรรมนัส พบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารกับพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ออกมายืนยันเสียงแข็งว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ยังสนับสนุนรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

จึงได้เห็นปฏิบัติการบีบ “พล.อ.วิชญ์” ให้พ้นเก้าอี้หัวหน้าพรรค แม้ในวงการทหารจะเรียกว่าการ “หยามเกียรติ” แต่ลึกๆ แล้ว “ร.อ.ธรรมนัส” ก็ยังคงให้ความเคารพและเกรงใจ เพื่อนรักเสธไอซ์ สังเกตได้จากการให้สัมภาษณ์ที่ไม่ได้กล่าวร้าย หรือใช้ถ้อยคำรุนแรงกับ พล.อ.วิชญ์ แต่อย่างใด

เชื่อกันว่า หลังได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค “ร.อ.ธรรมนัส” จะเข้าเกียร์เดินหน้า ไม่มีถอย สอยเก้าอี้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ในระยะใกล้เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ สานต่อภารกิจเมื่อปีที่แล้ว ที่ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า และส่งผลให้ถูกปลดจากเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์

ส่วนระยะไกล เลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าที่ “ร.อ.ธรรมนัส”จะทำทุกวิถีทางสกัด “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ให้กลับมาเป็น “นายกฯ” อีกสมัยตามเจตนารมณ์เดิมที่วางไว้คือ นายกฯ 2 เทอม 8 ปี จนถึงปี 2570

ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” คือ ทหารเสือ ที่มีเขี้ยวเล็บ และเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ต้นแบบโรงเรียนเตรียมทหาร ที่มีรางวัลเกียรติยศจักรดาวการันตี ด้วยคุณลักษณะการเป็นทหารดีเยี่ยม เรียนดี หัวกะทิของ ตท.12 และไม่เคยถูกตัดคะแนนความประพฤติ จนผ่านการคัดเลือกให้เป็น “คอมแมนด์” หรือ นักเรียนบังคับบัญชา สายว๊าก ปกครองนักเรียนเตรียมทหาร 5 ชั้นปี

60 ปีในชีวิตรับราชการของ “พล.อ.ประยุทธ์” ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายรูปแบบ ทั้งสนามรบเขาพนมปะ ปกป้องรักษาอธิปไตยชายแดน วิกฤติการเมือง และด้วยอุปนิสัยเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่ผู้บังคับกรม ผู้บังคับกองพัน และ ผบ.ทบ. ทำให้มีลูกน้องมากมายที่พร้อมจะบุกน้ำลุยไฟแบบไม่มีเงื่อนไข

แต่หากพูดถึงความดุ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็อยู่ในระดับต้นๆ ไม่น้อยกว่า “เสธไอซ์” โดยเฉพาะเรื่องเกียรติยศ-ศักดิ์ศรี เรียกได้ว่า ฆ่าได้หยามไม่ได้ และไม่มีวันยอมให้ “ร.อ.ธรรมนัส”สอยตกเก้าอี้นายกฯ กลางสภา หรือ เป็นขวากหนามสร้างอุปสรรคจนทำให้งานไม่บรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้

นับต่อจากนี้ เกมโค่นนายกฯ ของ “ร.อ.ธรรมนัส” จะเดินแรง รุกไว ในขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็เตรียมพร้อมตั้งรับ และตอบโต้ เป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตา ระหว่างสองอดีตทหาร ที่มีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน แต่เส้นทางชีวิตแตกต่างราวหน้ามือกับหลังมือ

คนหนึ่งคือต้นแบบของกองทัพ ส่วนอีกคนคือความด่างพร้อย แต่ต้องมาบรรจบในสนามการเมืองที่มี “เก้าอี้นายกฯ” เป็นเดิมพัน

จุดจบเรื่องนี้มีเพียงสองทาง ระหว่างปิดฉากการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ได้สำเร็จ หรือกบฎภาคอวสานของ ร.อ.ธรรมนัส ที่จะถูกตามล้างตามเช็ดทุกคดี