กกต.กลับคำสั่ง! ไฟเขียว “อดิเทพ จาวลาห์” ลงชิง ส.ก.เขตดุสิต ได้

กกต.กลับคำสั่ง! ไฟเขียว “อดิเทพ จาวลาห์” ลงชิง ส.ก.เขตดุสิต ได้

เปิดเหตุผล กกต.ชุดใหญ่ กลับคำสั่ง กกต.กทม. ไฟเขียวให้ “อดิเทพ จาวลาห์” ลงชิง ส.ก.เขตดุสิต ได้ เหตุอยู่ในภูมิลำเนาไม่น้อยกว่า 1 ปี

กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศรับสมัครบุคคลลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายไกรเดช บุนนาค และผู้สมัคร ส.ก. 3 ราย ได้แก่ นายอดิเทพ จาวลาห์ นางสาวณัฐวีณ์ เปาชัย และนายพีรพล กนกวลัย (เฮียเล้า ปัจจุบันศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาคำสั่ง กกต.ให้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท ได้) นั้น

ล่าสุด กกต.มีคำวินิจฉัยที่ 398/2565 ลงวันที่ 2 พ.ค. 2565 มีคำสั่งให้รับสมัครและประกาศชื่อนายอดิเทพ จาวลาห์ เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต แล้ว ภายหลังนายอดิเทพ ถูก กกต.ตัดสิทธิโดยระบุว่า ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 49 (3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครเป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปี ทำให้เจ้าตัวยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง กกต.ดังกล่าว

โดย กกต.ให้เหตุผลว่า เดิมผู้ร้อง (นายอดิเทพ) พักอาศัยมีชื่อในทะเบียนบ้าน เขตตลิ่งชัน กทม. ต่อมาประมาณเดือน เม.ย. 2563 ได้ย้ายไปเขตบางกอกน้อย กทม. โดยไม่ได้ย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเช่าที่เขตตลิ่งชัน และเข้าใจว่ายังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเช่าดังกล่าว ต่อมาเจ้าของบ้านเช่ายื่นคำร้องนายทะเบียนท้องถิ่น ให้ย้ายชื่อผู้ถูกร้องออกไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ผู้ร้องจึงไปย้ายชื่อตนออกจากทะเบียนบ้านกลางไปไปอยู่ที่บ้านเขตบางกอกน้อย กทม. เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2564 เป็นไปตามตาม พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 

กกต. ระบุอีกว่า โดยปกติทั่วไปการแจ้งย้ายชื่อบุคคลออกหรือเข้าอยู่ในทะเบียนบ้านใด ต้องเป็นไปโดยเจตนาของผู้นั้นเป็นสำคัญ แม้ว่าการแจ้งย้ายชื่อของบุคคลไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลางเจ้าบ้านอาจดำเนินการได้โดยลำพัง แต่เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวมีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของบุคคลตามที่กฎหมายรับรองหรือคุ้มครองไว้ รวมทั้งการใช้สิทธิเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้ง

ดังนั้นการแจ้งย้ายบุคคลเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ต้องมีบทบัญญัติและข้อกำหนดให้เจ้าบ้านหรือนายทะเบียนผู้รับแจ้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเคร่งครัด เมื่อบุคคลใดมิได้แสดงเจตนาย้ายภูมิลำเนาออกจากบ้านเลขที่ใด และยังคงอยู่ในพื้นที่เดิมตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน โดยไม่ทราบหรือได้รับแจ้งจากผู้ใดว่า มีการแจ้งย้ายชื่อของตนไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง การที่เจ้าบ้านได้ยื่นคำร้องแจ้งย้ายชื่อบุคคลไปอยู่ทะเบียนบ้านกลางโดยไม่แจ้งให้บุคคลนั้นทราบ การแจ้งย้ายชื่อบุคคลไปอยู่ทะเบียนบ้านกลางในกรณีเช่นนี้ จึงไม่อาจถือได้ว่าระยะเวลาที่บุคคลนั้นอยู่ในบ้านเลขที่เดิมสิ้นสุดลงด้วยเหตุดังกล่าว ตามแนวคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 9 คดีหมายเลขดำที่ ลต.ทต.1/2564 คดีหมายเลขแดงที่ ลต.ทต.1/2565 ลงวันที่ 26 มี.ค. 2564

เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้อง ได้พักอาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเช่าเขตตลิ่งชัน กทม. โดยปรากฏตามหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร้องที่ออกเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2560 ต่อมาประมาณเดือน เม.ย. 2563 ผู้ร้องย้ายไปอยู่บ้านเขตบางกอกน้อย กทม. แต่ไม่ได้มีการย้ายทะเบียนบ้าน แสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องยังมีภูมิลำเนาอยู่ใน กทม. อันเป็นเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครรับเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 1 ปี 

ประกอบกับที่เจ้าของบ้านเช่าไปยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนท้องถิ่น เขตตลิ่งชัน ให้ย้ายชื่อผู้ร้องออกจากทะเบียนบ้านเช่าดังกล่าวไปอยู่ทะเบียนกลาง โดยไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นยืนยันได้ว่า ผู้ร้องได้ทราบมาก่อนว่าเจ้าของบ้านเช่าได้แจ้งย้ายชื่อผู้อยู่ทะเบียนกลาง ผู้ร้องไม่มีโอกาสได้โต้แย้งหรือแสดงหลักฐานใด ๆ การแจ้งย้ายผู้ร้องเช่นนี้ ไม่อาจถือว่าระยะเวลาที่ผู้ร้องอยู่ในทะเบียนบ้านเช่าเขตตลิ่งชัน กทม. สิ้นสุดลง ด้วยเหตุดังกล่าวตามแนวทางคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9 ข้างต้น จึงรับฟังได้ว่า ผู้ร้องมีชื่ออยู่ในเขตทะเบียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครรับเลือกตั้งในวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง จึงไม่เป็นบุคคลผู้ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 49 (3) 

จึงมีคำสั่งให้รับสมัครและประกาศชื่อนายอดิเทพ จาวลาห์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.เขตดุสิต

อ่านรายละเอียดคำสั่ง กกต. คลิกที่นี่