"ชลน่าน" ปูด "ระบอบประยุทธ์" ยื้ออำนาจ ยุบสภา หนีปม นายกฯ 8 ปี 

"ชลน่าน" ปูด "ระบอบประยุทธ์" ยื้ออำนาจ ยุบสภา หนีปม นายกฯ 8 ปี 

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ ประยุทธ์ ยื้ออำนาจเตรียมแผนยุบสภา หนีปม 8 ปี นายกฯ ก่อนกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งบังคับใช้ หวังเปิดเดดล็อกทางการเมือง

7 พฤษภาคม 2565 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน : ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน เวทีที่ 4 ‘รัฐสภาสั่นคลอน สภาล้มลุกคลุกคลาน’ ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจทำให้พี่น้องประชาชนต้องหยุดงาน ตกงาน ขาดรายได้ โดยเฉพาะพี่น้องภาคอีสาน ที่ต้องเดินทางกลับถิ่นฐาน และความผิดพลาดของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เพียงทำให้พี่น้องแรงงานต้องล้มเหลวในการหารายได้ แต่การสร้างงานสร้างเงินจากภาคเกษตรกรรมก็ล้มเหลวไปด้วย

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นภาพสะท้อนความสั่นคลอนของรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ รัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างโดยผู้มีอำนาจที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ผูกมัดพี่น้องประชาชนไว้กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่งผลให้รัฐบาลไม่สนใจพี่น้องประชาชน สิ่งที่หาเสียงเอาไว้ไม่ถูกนำไปผลักดันเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส.ส.ปัดเศษ ที่เอามาตั้งรัฐบาลทำให้เกิดรัฐบาลที่ไม่มั่นคง ไร้เสถียรภาพและไร้ประสิทธิภาพ

อีกทั้งยังไม่เคยมีความรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีไม่เคยมาตอบกระทู้ที่สภา ไม่เคยให้ความสำคัญกับสภา ปล่อยสภาล่มซ้ำซากมากกว่า  17 ครั้ง อีกทั้งยังทำลายเกียรติพี่น้องประชาชนที่มอบอำนาจให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการใช้สภาเป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 
.

รัฐบาลชุดนี้จำนนด้วยหลักฐานทุกอย่าง ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งประเด็นการทุจริตถุงมือยาง การสร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างกรณีเหมืองทองอัครา รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถตอบคำถามหรือแก้ไขในสิ่งที่เหล่านี้ได้แต่รัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะยื้อยู่ในอำนาจต่อ

วันนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันประเมินในสิ่งเหล่านี้เนื่องจากก็มีข่าวหลุดออกมาว่า เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้และเขาสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้ โดย พลเอกประยุทธ์ อาจจะตัดสินใจยุบสภา ก่อนที่จะมีกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งออกมาบังคับใช้ เพื่อให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง แล้วจะสามารถอยู่รักษาการในอำนาจต่อไปได้ต่อเนื่อง หรืออีกหนทางคือ พลเอกประยุทธ์ อาจจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็น นายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งเราก็เป็นห่วงว่าอาจมีการใช้กลไกของรัฐธรรมนูญที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การทำให้กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาไม่สามารถทำได้ คือ เลือกนายกรัฐมนตรีกี่ครั้งก็ไม่ผ่าน แล้วไปทำให้เขาสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องถามพี่น้องประชาชนว่าจะยอมให้เขาทำแบบนั้นหรือไม่ 
.
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเสื่อมสภาพเกินเยียวยา สภาเสื่อมศรัทธา จึงถึงเวลาทวงคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมติร่วมกันให้ขีดเส้นใต้ให้กับความล้มเหลว ขีดเส้นตายให้กับรัฐบาลที่สิ้นสภาพ  วันนี้พรรคฝ่ายค้านจึงมาฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชน เพื่อนำสิ่งที่ทุกท่านสะท้อนไปบอกกับรัฐบาลชุดนี้ว่าท่านไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ หยุดทำร้ายประเทศและทำร้ายพี่น้องประชาชนได้แล้ว