"ประวิตร" ตั้ง ทีมยุทธศาสตร์ พปชร. มุ่ง เติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู

"ประวิตร" ตั้ง ทีมยุทธศาสตร์ พปชร. มุ่ง เติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู

"ประวิตร" เซ็นคำสั่ง แต่งตั้ง "กก.ยุทธศาสตร์ พปชร." ให้ "สมศักดิ์" นั่งประธาน มุ่ง เติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู สร้างความมั่นใจ เป็นที่พึ่ง ปชช. พร้อมแข่งขันในสนาม "เลือกตั้ง" ต่อต้าน ภาพลักษณ์ที่ทำลายพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรค นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายประสาน หวังรัตนปราณี เป็นกรรมและเลขานุการ และว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ทั้งนี้ เนื่องด้วยตามปรากฏการณ์ความนิยมในพรรคการเมืองมีธรรมชาติที่แท้จริงอย่างหนึ่งคือการไม่หยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงไปตามผลงาน ศรัทธาของประชาชนและบทบาทการแสดงของสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆ นอกจากผลงานที่จะส่งไปให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เกิดความรัก ความศรัทธาในพรรคการเมืองแล้ว ความสามัคคีของสมาชิกพรรคจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องว่า มีความเข้มแข็งมากพอที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการแข่งขันทางการเมืองในระบบประชาธิปไตย

จึงถือเป็นงานที่ท้าทายคณะกรรมการทุกคนที่จะมาร่วมกันเติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่า ความสามัคคีของพรรค จะเป็นความหวังของประชาชนที่ศรัทธาเรา

โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ มีหน้าที่และอำนาจกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ และแนวทางการดำเนินงานของพรรคพลังประชารัฐให้เป็น ความหวัง ความศรัทธาและเป็นที่พึ่งพิงของประชาชน โดยมีแนวทาง ดังนี้ 

\"ประวิตร\" ตั้ง ทีมยุทธศาสตร์ พปชร. มุ่ง เติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู

\"ประวิตร\" ตั้ง ทีมยุทธศาสตร์ พปชร. มุ่ง เติมความรัก ทำให้พรรคเฟื่องฟู

1. ด้านกิจกรรมสัมพันธ์ มีเป้าหมายที่จะสร้างความคุ้นเคยของเหล่าสมาชิกพรรคทุกระดับผ่านกิจกรรมที่จะทำงานกันเป็นทีม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ เปลี่ยนแปลงทัศนคติให้สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน หลอมรวมกลายเป็นวัฒนธรรมรวมหมู่พร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง

2.ด้านการพัฒนาพรรค มีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของพรรค เช่น สถานที่ทำงานระบบสื่อสารภายในพรรคให้พร้อมที่จะรองรับการติดตามงานที่รัฐบาลในพื้นที่เพื่อใช้ในการเพิ่มผลงานให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคและผู้สมัครในอนาคต

3.ด้านเศรษฐกิจท้องถิ่น มีหน้าที่ในการคิดค้นรูปแบบการทำกินแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนให้มีอาชีพทำกินต่อได้ โดยสามารถใช้งบประมาณจากโครงการของรัฐที่มีอยู่สนับสนุน โดยให้สมาชิกของพรรคมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการต่างๆ เหล่านั้น

4.ด้านการสร้างการมีส่วนร่วม มีหน้าที่ในการสร้างกิจกรรมกับบุคคลภายนอก ผ่านกิจกรรมแบบจิตอาสา ให้เกิดความรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับรัฐบาล

5.ด้านสื่อประชาสัมพันธ์และการข่าว มีภารกิจในการจัดหาและจัดทำ ประเด็นข่าว มุมข่าว ที่เพิ่มความเชื่อถือในพรรคและสามารถต่อต้านข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ของพรรคได้

ในการกำกับ ดูแล ติดตามการดำเนินงานของพรรคในด้านกิจกรรมสัมพันธ์ ด้านการพัฒนาพรรคเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้านการสร้างการมีส่วนร่วม ด้านประชาสัมพันธ์ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมั่นของพรรคต่อประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการภายในพรรค โดยเป็นการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือกลุ่มบุคคลเพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย รวมถึงการปฏิบัติงานอื่นใดตามที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมอบหมาย