"เสรีพิศุทธ์" ยอมรับส่งคนสนิทคุย "ธนภร" ให้ลาออก ส.ส. แลกไม่มีคดีความ

"เสรีพิศุทธ์" ยอมรับส่งคนสนิทคุย "ธนภร" ให้ลาออก ส.ส.  แลกไม่มีคดีความ

เสรีพิศุทธ์ รับส่ง นายทะเบียนพรรค คุย "ธนภร" ให้ลาออก ส.ส. ชี้พฤติกรรมขายขี้หน้า ยืมเงินไม่คืน-ยักยอก ระบุให้ลาออกจากตำแหน่งส.ส. เพื่อไม่ให้เกิดคดีความ

         พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ยอมรับว่าได้ให้พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคเสรีรวมไทย พูดคุยกับน.ส.ธนภร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เพื่อให้ลาออกจากตำแหน่งส.ส. หลังจากมีพฤติการณ์ยืมเงินตนและนายเพชร เอกกำลังกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ไม่ชดใช้ และมีพฤติกรรมยักยอกทรัพย์ จึงไม่สมควรเป็นรองหัวหน้าพรรค และควรให้ลาออกจากตำแหน่งส.ส. เพื่อไม่ให้เกิดคดีความ และหาก น.ส.ธนภร ลาออก บัญชีรายชื่อลำดับที่ 13 จะเลื่อนลำดับมาแทน ซึ่งคนที่อยู่ในลำดับดังกล่าวไม่ใช่นายทุนพรรค หากเป็นนายทุนจริงทำไมถึงอยู่ลำดับบัญชีรายชื่อหลังน.ส.ธนภร

         “น.ส.ธนภร อยู่กับพรรคเสรีรวมไทยไม่เสียเงินสักบาท ตอนที่ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยยังมีพฤติกรรมยืมเงินผม 1 ล้านบาท และภายหลังคืนมา 4 แสนบาท และยืนเงินนายเพชร อีก 2.1ล้านบาท แม้จะคืนผ่านการเขียนเช็ค แต่กลับพบว่าเช็คเด้งอีก และตอนที่ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค ไม่ดำเนินการออกบัตรสมาชิกพรรคให้กับคนที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพทั้งที่รับเงินไปแล้ว ส่วนที่ได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เพราะมาร้องไห้ขอตำแหน่ง โดยผมสงสารจึงให้ตำแหน่งดังกล่าว แต่เมื่อได้รับการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ ได้เป็นส.ส. มีพฤติกรรมที่ขายขี้หน้า ผิดกฎหมายอีก ควรไปได้แล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

 

         พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังตอบคำถามถึงการขอให้น.ส.ธนภร เขียนใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส., สมาชิกพรรคไว้ล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่ ว่า ตอนประชุมพรรคครั้งแรกที่ประชุมพิจารณาว่าเพื่อความรัก ความสามัคคี ปรองดองและความมั่นคงของพรรค ให้เขียนใบลาออกไม่ลงวันที่ แต่ทราบว่าไม่มีใครเขียน โดยน.ส.ธนภร ไม่ได้เขียนใบลาไว้เช่นกัน

         ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่ากรณีที่น.ส.ธนภร คืนเงินที่ยืมไป 4 แสนบาท และกรณีอื่นๆ ได้แจ้งเพิ่มเติมการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว.