ทีม FINX คว้าแชมป์ BITKUB BLOCKATHON 2023

22 ธ.ค. 2566 บริษัท บิทคับ แล็บส์ จํากัด ผู้ดำเนินการ Bitkub Academy ศูนย์การเรียนรู้สินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน และ บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้สร้างและดำเนินการ Bitkub Chain ร่วมกับ NEAR Protocol จัดงานประกวดแข่งขัน BITKUB BLOCKATHON 2023 โครงการ Hackathon ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2566 เพื่อเปิดประสบการณ์การเรียนรู้การสร้างทีมและการจำลองการสร้างธุรกิจ WEB 3.0 ด้วยระบบปฏิบัติการบล็อกเชน ภายใต้หัวข้อ Hack the Future of Blockchain with BOS ระหว่างวันที่ 18 - 20 ธันวาคม 2566 ณ ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน ชั้น 4 โซน SCBX Next Tech โดยมี จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด, ภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด, เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด และชานนท์ ยาคล้ายผู้ก่อตั้งบริษัท คิลสวิตช์ โฮลดิ้ง จำกัด และ NEAR Protocal รวมถึงคณะผู้บริหารของบิทคับเข้าร่วม

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ BITKUB BLOCKATHON 2023 มีเป้าหมายในการเป็นพื้นที่ให้นักพัฒนาและบุคคลที่สนใจใน เทคโนโลยีบล็อกเชน ได้มาร่วมสร้างสรรค์ไอเดียและกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกัน บิทคับ ก็เริ่มต้นจากการชนะการแข่งขัน Hackathon ในลักษณะนี้เช่นกัน จึงเข้าใจความสำคัญของการเปิดพื้นที่ให้กับเหล่านักพัฒนารุ่นใหม่ได้มีโอกาสคิดค้นโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นสตาร์ทอัพแห่งใหม่ให้กับวงการฟินเทคได้ ในวันนี้ผลการแข่งขันเสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งที่จะพาทุกทีมให้ประสบความสำเร็จได้คือการทำอย่างต่อเนื่องและนำคำแนะนำที่ได้ไปพัฒนาโปรเจกต์ต่อ ตนเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายความฝันให้เกิดสตาร์ทอัพน้องใหม่ขึ้น และอยากจะช่วยผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไปสู่ Scale up ธุรกิจต่อ ซึ่งประเทศไทยยังมีบริษัทที่ Scale up มาจากสตาร์ทอัพเพียงแค่ 2 เจ้า คือ Bitkub และ Flash Express พอมาถึงจุดนี้ ตนจึงอยากสนับสนุนฟินเทคสตาร์ทอัพในไทยให้เกิดมากขึ้น เพื่อมาช่วยกันขยาย Ecosystem ให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ทัดเทียมในระดับประเทศและในระดับโลก

สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับการแข่งขัน BITKUB BLOCKATHON ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนิสิตนักศึกษา และนักพัฒนาด้าน เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นจำนวนมาก โดยคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันได้ทั้งสิ้น 23 ทีม จำนวน 78 คน มาร่วมนำเสนอไอเดียและกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สามารถต่อยอดในระบบบล็อกเชน โดยมีวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตลอดโครงการ และมีคณะกรรมการร่วมตัดสินจากหลากหลายด้าน ได้แก่ Bitkub Ventures, Bitkub Blockchain Technology, KillSwitch, J Ventures, ContributionDAO, Inspex และ I Am Able ซึ่งในวัน Pitching Day ได้มีไอเดียที่น่าสนใจและสามารถพัฒนาต่อยอดในวงการบล็อกเชนได้หลายโปรเจกต์ 

หลังจากการนำเสนอไอเดียกันอย่างเข้มข้น ทีมที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในปีนี้ไป ได้แก่ ทีม FINX โดย วรุณ ซิงห์เกิล, ธีระวุฒิ แซ่ซิ้ม, สุทธิพงศ์ ประมวลศิลป์, ชญานนท์ พลเพชร และศุภณัฐ ลัดดาแย้ม ซึ่งนำเสนอโปรเจกต์ BillBOS ระบบโฆษณา Web3 บน NEAR BOS ด้วยเหรียญ (token) ตามด้วยทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม SUPERCALL ที่พัฒนาโปรเจกต์ Supercall เครื่องมืออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนให้ง่ายและปรับเปลี่ยนรายละเอียดบนหน้าแอปพลิเคชันและลักษณะธุรกรรมได้อย่างยืดหยุ่น และทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม LOREM IPSUM กับโปรเจกต์ Omagotji เกมเลี้ยงมอนสเตอร์ดิจิทัลบนบล็อกเชนที่ใช้เทคโนโลยี NFT รวมถึงรางวัลพิเศษสำหรับทีม LOREM DIMSUM กับโปรเจกต์ ApeState แพลตฟอร์มที่ช่วยปฏิวัติการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถเปรียบเทียบราคากลางได้อย่างแม่นยำ

ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1-3 ของโครงการ BITKUB BLOCKATHON 2023 ได้รับรางวัลจาก บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี และ NEAR เป็นมูลค่า $2,000 USD, $1,500 USD และ $1,000 USD ตามลำดับ รวมถึงรางวัลพิเศษจาก JFIN CHAIN, INSPEX, FINT by Finnomena และ CONTRIBUTION DAO มูลค่ารางวัลละ $500 USD รวมทั้งสิ้นกว่า $6,500 USD (ประมาณ 226,000 บาท) พร้อมโอกาสร่วมงานกับบริษัทในเครือบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป 

บริษัท บิทคับ แล็บส์ จํากัด และ บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ขอขอบคุณผู้ร่วมสนับสนุนและเหล่านักพัฒนาที่สนใจ พร้อมร่วมกันผลักดันให้โครงการนี้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ บิทคับ พร้อมมุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการดีๆ เช่นนี้ต่อไป เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและองค์ความรู้ด้าน เทคโนโลยีบล็อกเชน และสินทรัพย์ดิจิทัล