SKR กวาดกำไร Q2/66 ที่ 227 ล้านบาท โตแรง 32.42%

SKR กวาดกำไร Q2/66 ที่ 227 ล้านบาท โตแรง 32.42%

SKR โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/66 รายได้รวม 1,414.17 ล้านบาท กำไรสุทธิ 227.41 ล้านบาท กำไรโตบวก 32.42% จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้รับบริการรักษาโรคยากที่มีความซับซ้อนโดยการผ่าตัด การให้บริการตรวจสุขภาพผ่านรูปแบบโรงพยาบาลเคลื่อนที่ผ่าน SIKARIN Connect

นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/66 กวาดรายได้รวม 1,414.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.47 ล้านบาท หรือเติบโต 4.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,348.70 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 227.41 ล้านบาท หรือเติบโต 32.43% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำไว้ 171.73 ล้านบาท แต่หากเทียบกับช่วงก่อนโควิด ไตรมาส 2/62 ที่บริษัทมีกำไร 27.51 ล้านบาท นับว่าเติบโตสูงถึง 726.64%

ผลประกอบการไตรมาส 2/66 เติบโตจากรายได้กลุ่มคนไข้โรคยากที่มีความซับซ้อนโดยการผ่าตัด ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอภายใต้สโลแกน "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์" การดำเนินการโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ รวมถึงกลยุทธ์การรับรักษาลูกค้ากลุ่มประกันสังคมจากโรงพยาบาลอื่นกรณีเกินศักยภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนค่ารักษาพยาบาลลดลง โดยสัดส่วนของต้นทุนต่อรายได้ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 64.04% ลดลง 2.05% จาก 66.09% ในไตรมาส 2/65

นอกจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่เน้นยกระดับศักยภาพทางการแพทย์ผ่านโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง เช่น โรงพยาบาลศิครินทร์ เปิดตัว "สถาบันโรคทางเดินอาหารและตับ" ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษาความผิดปกติของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ตับและท่อทางเดินน้ำดีทุกชนิด พร้อมด้วยการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการรักษาที่ซับซ้อนและโรคเรื้อรัง พร้อมทั้งยกระดับศูนย์ส่องกล้องผ่านเทคโนโลยีล่าสุดในการรักษา ส่วน โรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ นำร่องเปิดตัว 5 ศูนย์การแพทย์ชั้นนำ ประกอบด้วย ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์กุมารเวช ศูนย์สูตินรีเวช ศูนย์หลอดเลือดและระบบประสาท และศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้เข้ารับบริการในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง นอกจากนี้บริษัทฯ ก็ยังมุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจในด้านที่สามารถต่อยอดธุรกิจหลัก ที่จะเติบโตไปกับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพของสังคมที่เปลี่ยนไป เช่น BeBetter Center ซึ่งให้บริการดูแลเรื่องสุขภาพที่มุ่งเน้นการดูแลป้องกันและเสริมสร้างสภาวะสุขภาพให้ผู้มารับบริการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

"บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะเติบโตต่อเนื่องด้วยจำนวนคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางและสถาบันการแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ จากกลยุทธ์การมุ่งเน้นรักษาโรคยากที่ซับซ้อนและความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อต่อยอดจุดแข็งด้านการแพทย์ นำไปสู่การเป็น Healthcare Solutions รองรับการเติบโตไปกับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพของประเทศ" นายสุริยันต์ กล่าว