ไทยเครดิต พัฒนาหลักสูตรการเงิน ยกระดับผู้ประกอบการรายย่อย

ไทยเครดิต พัฒนาหลักสูตรการเงิน ยกระดับผู้ประกอบการรายย่อย

มูลนิธิไทยเครดิต ร่วมกับ คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต่อยอดพัฒนาหลักสูตรความรู้และทักษะทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย  “เตรียมตัวธุรกิจและการเงิน สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย" และหลักสูตร "ความรู้ทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน"

อีกกิจกรรมดีๆ ของมูลนิธิไทยเครดิต ร่วมกับ คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต่อยอดพัฒนาหลักสูตร "ความรู้ทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน" ถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินไปจนถึงหลังเกษียณ ซึ่งจะเปิดกว้างให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายของมนุษย์เงินเดือนหรือผู้มีรายได้ประจำ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน 

โดยเน้นการวางแผนการเงินส่วนบุคคล อาทิ การสำรวจเป้าหมายทางการเงิน ข้อมูลฐานะการเงินทั้งทรัพย์สินและหนี้สิน การบริหารค่าใช้จ่าย การจัดการหนี้ การออม การคำนวณภาษี และการจัดการความเสี่ยงทางการเงิน 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ลินดา พัฒนวิทยากุล อาจารย์ประจำคณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาโครงการรับรองมาตรฐานหลักสูตรความรู้ทางการเงินในโครงการ "ตังค์โต Know-how" กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะมุ่งเน้นเรื่องสำคัญ 4 ด้าน คือ

  • ด้านการตลาด ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนจุดแข็ง อุปสรรคและโอกาสทางธุรกิจ ช่องทางการขายที่จะทำให้มีรายได้เพิ่ม การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์  เพื่อเพิ่มยอดขายและมีกำไรสูงขึ้น 
  • ด้านการเงิน สอนการคำนวณต้นทุนธุรกิจ และบริหารเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่มักจะลืมคิดค่าแรงของตัวเองซึ่งเป็นต้นทุนแฝง ทำให้ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ส่งผลต่อการกำหนดจุดคุ้นทุนและกำไรไม่ถูกต้อง 
  • ด้านบัญชี ต้องมีการทำบัญชีรายวัน จัดเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นข้อมูลรายรับ-รายจ่าย ได้อย่างชัดเจน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องกำไรขาดทุน แต่จะทำให้ผู้ประกอบการตรวจสอบได้ว่า มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่มากเกินไปหรือไม่ 
  • ด้านภาษี จะสอนการคำนวณภาษีสำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงให้ความรู้ที่จะทำให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีบุคคลธรรมดา

ไทยเครดิต พัฒนาหลักสูตรการเงิน ยกระดับผู้ประกอบการรายย่อย

ส่วนหลักสูตรสำหรับมนุษย์เงินเดือน จะช่วยวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ ไปจนถึงเกษียณ เช่น การตั้งเป้าหมายทางการเงินให้เพียงพอไปตลอดชีวิต การออมซึ่งรวมถึงเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นได้  การทำงบรายรับรายจ่ายล่วงหน้า และการประเมินความเสี่ยงทางการเงิน เป็นต้น

โดยทั้งสองหลักสูตรได้ผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองเป็นอย่างดีจากคณะทำงานที่ประกอบด้วยคณาจารย์จากคณะบัญชี เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ โลจิสติกและโซ่อุปทานแบบลีน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี  TaxBugnoms จึงมั่นใจได้ว่าเป็นหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ

รอยย์ ออกุสตินัส กุนารา รองประธานมูลนิธิไทยเครดิต บอกว่ามูลนิธิฯ ได้สร้างสรรค์หลักสูตรทางการเงินขั้นสูงต่อยอดจากขั้นพื้นฐาน ให้เป็นหลักสูตรเชิงลึกที่มีเนื้อหาเข้มข้น ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ และมีเครื่องมือที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง 

การให้ความรู้และทักษะทางการเงินแก่บุคลากรขององค์กร สามารถติดต่อมายังศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.  02-697-5454 มูลนิธิฯ จะลงพื้นที่จัดฝึกอบรม ณ หน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนการฝึกอบรมผ่านเฟซบุ๊ค “ตังค์โต Know-how” ในรูปแบบไลฟ์สดเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันพฤหัสบดี ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ซึ่งผู้เข้าอบรมสามารถพูดคุยกับวิทยากรได้แบบเรียลไทม์