กองกำลังผาเมือง โชว์ผลงานสกัดยาเสพติดได้กว่า 65 ล้านเม็ด

กองกำลังผาเมือง โชว์ผลงานสกัดยาเสพติดได้กว่า 65 ล้านเม็ด

ผบ.ผาเมือง แถลงสรุปประผลงานแนวชายแดน ป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด ได้สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ยึดยาเสพติดได้กว่า 65 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 เป็นประธานแถลงสรุปผลการปฏิบัติงานของ กองกำลังผาเมืองในด้านการปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ การป้องกันและสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน

โดยมี พันเอก ชาตรี สงวนธรรม รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พันเอก อัศวิน ดุสิตรัตนกุล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 พร้อมด้วย ผบ.ฉก.ม.3, ผบ.ฉก.ม. 4, ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมและปราบปรามยาเสพติด กองกำลังผาเมือง, ผบ.ฉก.กรมทหารพราน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมเข้าแถลงข่าว ณ ห้องประชุมทองจัตุ กองบัญชาการกองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

กองกำลังผาเมือง โชว์ผลงานสกัดยาเสพติดได้กว่า 65 ล้านเม็ด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 เปิดเผยว่า ผลการปฏิบัติงานสกัดกั้นตามแนวชายแดน การป้องกันและการสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนในห้วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ 70% มีผลการปฏิบัติ มีการสกัดกั้น จำนวน 316 ครั้ง มีการปะทะ จำนวน 8 ครั้ง, กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 27 ศพ สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 380 คน

ตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 65 ล้านเม็ดเศษ, ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 12 กิโลกรัมเศษ, ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) จำนวน 126 กิโลกรัมเศษ การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จับกุม จำนวน 276 ครั้ง ผู้ต้องหา จำนวน 3,066 คน และสามารถจับกุมผู้นำพาได้ จำนวน 202 คน

การปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ดำเนินการจำนวน 10 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ตรวจยึด ของกลางไม้ท่อน จำนวน 16 ท่อน, ไม้แปรรูป จำนวน 150 แผ่น, เลื่อยยนต์ จำนวน 2 เครื่อง และพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา

กองกำลังผาเมือง โชว์ผลงานสกัดยาเสพติดได้กว่า 65 ล้านเม็ด

โดยพบการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ การกระทำผิด พระราชบัญญัติอาวุธและเครื่องกระสุน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 4 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 คน ตรวจยึดอาวุธปืน จำนวน 8 กระบอก และกระสุนปืน จำนวน 1,475 นัด

การลักลอบโจรกรรมข้ามแดน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 23 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 17 คน ตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 13 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 30 คัน การจับกุมสินค้าหนีภาษี และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จำนวน 19 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 24 คน ตรวจยึดบุหรี่ จำนวน 31,060 ซอง

นอกจากนี้ ยังได้มีการปฏิบัติภารกิจสนับสนุนอากาศยานลำเลียงผู้ป่วย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ป่วย จำนวน 12 ครั้ง ผู้ป่วย 12 ราย ช่วยเหลือด้านอุทกภัย จำนวน 46 ครั้ง ช่วยผู้ประสบภัย จำนวน 3,475 ราย ช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ได้ดำเนินการสร้าง/ซ่อมแซมบ้าน จำนวน 28 ครั้ง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 107 ราย

ทั้งนี้ เป้าหมายในปี 66 ได้เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดนมากขึ้น การทีได้ดำเนินการจับกุมและยึดยาเสพติดได้มากขึ้น ไม่ใช่เป็นการทะลักเข้ามาช่วงนี้มาก แต่มีมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมานั้นมีการจับกุมได้เพราะแนวชายแดนประเทศไทยสามารถเข้ามาได้หลายช่องทาง ทำให้ยาเสพติดที่หลุดลอดเข้ามาพื้นที่ตอนในจำนวนมาก ภายหลังจากที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในด้านแนวชายแดน ก็ทำให้จับกุมได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องของชนกลุ่มน้อยในพม่า มีการผลิตยาเสพติดเพื่อแลกอาวุธ ทำให้ยาเสพติดเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เป็นเรื่องที่ปกติที่เคยมีอยู่แล้ว และไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด การเปิดด่านแนวชายแดนในอนาคตมองว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงการลักลอบลำเลียงสิ่งของผิดกฎหมายได้ง่ายขึ้น

ส่วนกลุ่มขบวนการลักลอบก็จะเลี่ยงไปใช้เส้นทาง หรือช่องทางธรรมชาติมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มความเข้มงวด หากเป็นไปได้ทำอย่างไรจะให้ยาเสพติดไม่ผ่านเข้ามาแนวชายแดนไทย และกลุ่มที่ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายที่เป็นผู้นำพา และผู้ที่ลักลอบขนยาเสพติดได้รู้ว่า หากเข้ามาแล้วจะไม่คุ้มค่า ก็จะทำให้การลักลอบนำเข้ามาของยาเสพติดและปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์

การลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาตามแนวชายแดนลดน้อยลง รวมถึงการสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่าและลาว หากสถานการณ์แนวชายแดนปกติ ไม่มีการสู้รบ ก็จะทำให้เศรษฐกิจตามแนวชายแดนดีขึ้น มีการเปิดแหล่งท่องเที่ยว ประเทศไทยก็มีรายได้มากขึ้นต่อไป