สูญ 70 ล้าน หลอกเทรดหุ้นกว่า 27 ราย บุกจับกรรมการบริษัท

กรณีตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับกรรมการบริษัท มิจฉาชีพ หลอกเทรดหุ้น สร้างความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (กก.1 บก.สอท.5) ได้ร่วมกันจับกุม นาง พ ตามหมายจับศาลอาญาจำนวน 2 ฉบับ ในข้อหา

• ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
• ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ
• ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
• ร่วมกันเป็นอั้งยี่
• สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก 

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสุวรรณศร ต.ห้วยทราย อ.หนองแค จ.สระบุรี

พฤติการณ์ของคดีนี้ สืบเนื่องมาจากกลุ่มมิจฉาชีพได้วางแผนหลอกลวงประชาชนอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนิติบุคคลขึ้นมาบังหน้า จากนั้นนำชื่อบริษัทไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นบัญชีม้าในการรับโอนเงินจากเหยื่อ ซึ่งการใช้บัญชีในนามนิติบุคคลนั้นมีข้อดีคือไม่มีข้อจำกัดเรื่องวงเงินในการทำธุรกรรม และไม่ต้องยืนยันตัวตนทุกครั้ง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ

จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพจะทำการติดต่อหาเหยื่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชักชวนให้ไปพูดคุยต่อในแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อสร้างความสนิทสนมและไว้วางใจ

เมื่อเหยื่อเริ่มเชื่อใจ คนร้ายจะชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นในต่างประเทศ โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงมากในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินเข้าไปลงทุนในระบบของคนร้ายผ่านบัญชีบริษัทม้าที่เตรียมไว้ แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการจะถอนเงินกำไรหรือเงินทุนคืน กลับไม่สามารถทำได้และไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีก จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง

จากการสืบสวนพบว่ามีผู้เสียหายในคดีนี้รวม 27 คน และมีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 70 ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นางพ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ลงพื้นที่เฝ้าติดตาม

จนกระทั่งพบผู้ต้องหาขับรถยนต์ออกจากบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงบริเวณ อ.หนองแค จ.สระบุรี และเข้าแสดงตัวพร้อมหมายจับเพื่อทำการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.5 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ต.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 ดำเนินการ

อ้างอิง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)