เกษตรฯ ชี้ 'ฝนตกหนัก' ทำ 10 จังหวัดใต้เสียหายหนัก พักหนี้ 2.4 แสนราย

นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร (ครั้งที่ 6/2568) ว่า ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ภาคใต้ตอนล่างจะได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 12–17 ธันวาคม 2568 โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอย่าง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล อาจเกิด น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง

กระทรวงเกษตรฯ จึงได้เร่งเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างเต็มที่ และวางแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที

แผนปฏิบัติการเร่งด่วน : เตรียมพร้อมเครื่องมือและแจ้งเตือนเกษตรกรล่วงหน้า

ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางเตรียมรับมือ โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้:

• เตรียมพร้อมทรัพยากร : ปรับปรุงบัญชี เครื่องมือ เครื่องจักร ยานพาหนะ อาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ติดตามและเฝ้าระวัง : ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประเมินความเสี่ยง และ แจ้งเตือนเกษตรกรล่วงหน้า
• เตรียมเฉพาะกิจ : มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมพัฒนาที่ดิน เตรียมการด้าน การอพยพสัตว์ การดูแลสุขภาพสัตว์ การเฝ้าระวังบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และ การฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดิน หลังน้ำลด

อัปเดตความเสียหาย : พื้นที่เกษตรอ่วม 10 จังหวัดใต้ สะสมตั้งแต่ 11 พ.ย. 68

จากรายงานสถานการณ์พื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2568) พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยมีสถิติความเสียหายเบื้องต้น ดังนี้

พืช

• มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 242,210 ราย พื้นที่รวม 207,031 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 67,396 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 11,996 ไร่ และไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชอื่น ๆ 127,639 ไร่ โดยสำรวจพบความเสียหายแล้ว 4,316 ราย พื้นที่เสียหาย 15,384 ไร่

ประมง

• มีเกษตรกร 14,215 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบรวม 26,665 ไร่ แบ่งเป็นบ่อปลา 13,464 ไร่ บ่อกุ้ง 13,201 ไร่ และกระชัง 134,149 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

ปศุสัตว์

• มีเกษตรกร 213,567 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวม 13,975,659 ตัว แบ่งเป็นโค 437,706 ตัว กระบือ 8,145 ตัว สุกร 275,715 ตัว แพะและแกะ 211,061 ตัว และสัตว์ปีก 13,043,032 ตัว โดยสำรวจพบความเสียหายแล้ว 1,165 ราย มีสัตว์ตายหรือสูญหายรวม 302,129 ตัว

เร่งเยียวยาและฟื้นฟู : โครงการช่วยเหลือหลังน้ำลด

รองปลัดฯ กฤษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและโครงการ ช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น:

• ฟื้นฟูดิน และให้คำแนะนำด้านการเกษตร
• สนับสนุน ท่อนพันธุ์หม่อน 25,000 ท่อน และ ไข่ไหม 1,250 แผ่น
• ช่วยเหลือด้าน พืชอาหารสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
• สนับสนุน เมล็ดพันธุ์พืชผักและพืชอายุสั้น
• ปล่อย พันธุ์สัตว์น้ำ ลงแหล่งน้ำธรรมชาติ 68.20 ล้านตัว
• มาตรการ พักชำระหนี้ ผู้กู้ด้านการประมง
• การช่วยเหลือเฉพาะหน้าด้วย ข้าวกล่อง ถุงยังชีพ การอพยพสัตว์ และการจัด ชุดเฉพาะกิจ ลงพื้นที่

กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่า จะเร่งให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง