เปิด 7 วิธี รับมือวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ช่วงหน้าหนาว ต้องใส่หน้ากากแบบไหน?

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ภายใต้การนำของ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัญหา หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้ง ประกอบกับมลพิษจากยานพาหนะ การก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ปภ. จึงขอแนะนำ 7 ข้อควรปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบจากปัญหา PM 2.5 เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

7 ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5

1. ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอ

• ใช้แอปพลิเคชันหรือช่องทางข่าวสารเพื่อตรวจสอบค่า PM 2.5 ในพื้นที่อยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นหนาแน่น

2. สวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน

• เลือกใช้หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการ กรองฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (เช่น หน้ากาก N95) เพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย

3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายในที่โล่ง

• งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะร่างกายจะสูดดมฝุ่นละอองในปริมาณมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อ ระบบทางเดินหายใจ

4. ป้องกันฝุ่นเข้าสู่ที่พักอาศัย

• ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ในช่วงที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน และพิจารณา ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ แบบที่ถอดล้างได้ เพื่อลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน
   

5. ดูแลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษและสังเกตอาการผิดปกติ

• ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก ให้ รีบไปพบแพทย์ ทันที

6. เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

• พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารครบ 5 หมู่ และ ดื่มน้ำให้มาก เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและปรับตัวได้ดีขึ้น

7. ลดการสร้างมลพิษและฝุ่นควัน

• งดการเผาทุกประเภท ที่ทำให้เกิดควัน
• ลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนตัว และหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อลดปัจจัยหลักในการเกิดภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

นายธีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหา PM 2.5 เป็นภัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของทุกคน