'คลองอู่ตะเภา' วิกฤต น้ำสูงกว่าปี 53 สทนช. สั่ง อพยพ ก่อนเที่ยงคืน

วันนี้ (24 พ.ย. 68) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศชภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำใน ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา จังหวัดสงขลา ว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤต หลังฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง และพบว่าระดับน้ำในปีนี้ สูงกว่าปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่สูงสุด

คาดการณ์ระดับน้ำลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา : จุดวิกฤตที่ต้องเฝ้าระวัง

จากการหารือร่วมกับกรมชลประทานและคาดการณ์สถานการณ์น้ำ ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย.) ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงพื้นที่ตอนกลางและปลายน้ำ ดังนี้:

สถานี X.173A (อำเภอสะเดา):

• คาดว่าวันนี้ (24 พ.ย.) ระดับน้ำจะสูงกว่าระดับตลิ่งประมาณ 1.90 เมตร
• หรือสูงกว่าระดับน้ำปัจจุบัน (09.00 น.) อีก 0.55 เมตร

สถานี X.90 (อำเภอคลองหอยโข่ง):

• คาดว่าใน วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 00.00 - 01.00 น. (เที่ยงคืนวันนี้)
• ระดับน้ำจะเพิ่มสูงกว่าระดับตลิ่งราว 2.26 - 2.46 เมตร
• หรือสูงกว่าระดับน้ำปัจจุบัน 0.30 - 0.50 เมตร

สถานี X.44 (อำเภอหาดใหญ่):

• คาดว่าใน วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 06.00 - 07.00 น.
• ระดับน้ำจะเพิ่มสูงกว่าระดับตลิ่ง 2.00 - 2.20 เมตร
• หรือสูงกว่าระดับน้ำปัจจุบัน 1.25 - 1.45 เมตร

สทนช. วอนประชาชน เฝ้าระวังสูงสุด และเตรียมพร้อม อพยพ

เลขาธิการ สทนช. เน้นย้ำให้ ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา โดยเฉพาะในเขต อ.หาดใหญ่ และพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ อำเภอคลองหอยโข่ง และ อำเภอสะเดา

• ติดตามข้อมูลการอพยพ จาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อย่างใกล้ชิด
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างเคร่งครัด เพื่อ ความปลอดภัยสูงสุด

สทนช. ยืนยันว่า จะร่วมกับทุกหน่วยงานภายใต้ ศชภ. ในการ บริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อ บรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์น้ำท่วม ให้ได้มากที่สุด และปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)