รับมือ 'คัลแมกี' เจ้าพระยาเพิ่มสูง กรมชลฯ ปรับแผนรับมือน้ำเหนือ

กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำล่าสุด เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกตอนบน และภาคอีสานตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัด ตาก, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, นครปฐม และเพชรบุรี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขา โดยเฉพาะ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• 12.00 น. (3 พ.ย. 68) ณ สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์: มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,542 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
• สถานี ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี: มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 216 ลบ.ม./วินาที
• ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท: ยกตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ +16.92 ม.รทก.

กรมชลประทาน เร่งบริหารจัดการน้ำ พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำ

เพื่อลดผลกระทบและบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการดังนี้:

• หน่วงน้ำ : ทำการหน่วงน้ำไว้บริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านเหนือเขื่อน
• รับน้ำเข้าระบบชลประทาน : รับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง เพื่อกระจายน้ำและลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ด้านล่าง
• ปรับเพิ่มการระบายน้ำ : ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,100 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,200 ลบ.ม./วินาที โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้

เฝ้าระวังต่อเนื่อง! อิทธิพลพายุ “คัลแมกี” ซ้ำเติมสถานการณ์

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า พายุ “คัลแมกี (Kalmaegi)” ซึ่งขณะนี้อยู่ในบริเวณทะเลจีนใต้ จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศเวียดนามและลาว ในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก

คำเตือนสำคัญ: ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณ พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา โปรดเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

สิ่งที่คุณควรทำ

• ติดตามประกาศการเตือนภัยน้ำท่วมจากกรมชลประทานและหน่วยงานท้องถิ่น
• เตรียมพร้อมยกสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปยังที่สูง หากอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน