เปิดแผน กทม. สู้ 'น้ำฝน-น้ำเหนือ-น้ำหนุน' รับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯ

วันนี้ (7 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลงถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานครในการรับมือสถานการณ์ น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน พร้อมนำคณะสื่อมวลชนลงเรือสำรวจการเตรียมความพร้อมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

การลงพื้นที่สำรวจเริ่มต้นจากท่าเรือส่วนการท่องเที่ยว ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตรวจสอบชุมชนนอกแนวป้องกัน เช่น ชุมชนท่าวัง งานเรียงกระสอบทรายที่ท่าราชวรดิษฐ์ การปรับปรุงแนวรั่วซึมบริเวณโรงเรียนราชินี การเสริมผนังกั้นน้ำที่กรมอู่ทหารเรือ และการก่อสร้างเขื่อนแนวฟันหลอ รวมถึงการเรียงกระสอบทรายในจุดฟันหลอชั่วคราว

นายชัชชาติกล่าวว่า แม้สถานการณ์ในภาคเหนือที่มีฝนตกหนักและน้ำท่วมจะทำให้ประชาชนใน กทม. กังวล แต่ กทม. ได้ติดตามสถานการณ์และประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทาน ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

กทม. วาง 2 มาตรการรับน้ำเหนือ-น้ำหนุน คู่ 3 มาตรการรับน้ำฝน

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยว่า กทม. ได้เตรียมมาตรการรับมือแบบบูรณาการ โดยแบ่งเป็น:

2 มาตรการรับมือสถานการณ์น้ำเหนือ-น้ำหนุน

• ตรวจสอบแนวป้องกันและเฝ้าระวังจุดเสี่ยง : ตรวจสอบความมั่นคงของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงเป็นพิเศษ
• เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ : เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่และหน่วยงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ

3 มาตรการพร้อมรับสถานการณ์น้ำฝน

• ลดระดับน้ำ : พร่องน้ำในระบบคลองเพื่อรองรับปริมาณฝน
• เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ : ตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำ
• เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ : จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง

เร่งอุด "แนวฟันหลอ" พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสริม

ปัจจุบัน แนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของ กทม. ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ มีความยาวรวมกว่า 80 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ยังคงมี "แนวฟันหลอ" หรือช่องว่างที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จำนวน 10 จุด ความยาว 1.18 กิโลเมตร จากทั้งหมด 32 จุด

สำนักการระบายน้ำได้เร่งดำเนินการแก้ไขจุดฟันหลอที่ยังไม่แล้วเสร็จ และช่องเปิดท่าเรือต่างๆ โดยใช้การ เรียงกระสอบทราย เพื่อต้านทานแรงดันน้ำ โดยได้ดำเนินการเรียงกระสอบทรายตามแผนประจำปี 2568 แล้วเสร็จ 75 จุด ใช้กระสอบทรายรวมกว่า 198,700 ใบ

นอกจากนี้ ยังมีการใช้มาตรการเสริมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ได้แก่ การติดตั้ง เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ และเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลในบริเวณใกล้เคียง เพื่อสูบน้ำฝนหรือน้ำที่รั่วซึมผ่านแนวป้องกันชั่วคราว พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที