เปิดแผนรัฐบาล สู้ศึกชายแดน หวังพยุงเศรษฐกิจ คุมเข้มราคาสินค้า

วันนี้ (31 ก.ค. 68) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดใน 7 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อชายแดน เข้มงวดการกำกับดูแลราคาสินค้าจำเป็น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาและการขาดแคลน นอกจากนี้ ยังเร่งจัดหาสินค้าเข้าสู่พื้นที่โดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
 

4 มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาสถานการณ์

รัฐบาลได้กำหนด 4 มาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่:

1. ควบคุมราคาสินค้าและเพิ่มจุดจำหน่าย : เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าที่จำเป็นได้ในราคาที่เป็นธรรม
2. เชื่อมโยงตลาด ระบายผลผลิต และขยายโอกาสทางการค้า:  ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถระบายสินค้าและแสวงหาช่องทางการค้าใหม่ๆ
3. รักษาส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชา และแสวงหาตลาดทางเลือกใหม่ในอาเซียน : เพื่อรักษาและขยายโอกาสทางการค้าของไทยในภูมิภาค
4. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและพักชำระหนี้ : เพื่อเสริมสภาพคล่องและบรรเทาภาระทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
    

เสริมการค้าและโลจิสติกส์

นอกเหนือจากมาตรการหลัก รัฐบาลยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้า เช่น การจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ชายแดน การเชื่อมโยงการส่งออกผ่านมหกรรมการค้าชายแดน และเทศกาล "Thai Fruits Festival" นอกจากนี้ ยังประสานงานกับการไปรษณีย์ไทยเพื่อช่วยกระจายผลไม้สู่ตลาดปลายทาง และให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเลือกใช้เส้นทางขนส่งทางเลือก เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากด่านชายแดนบางจุดที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ

ในด้านการเงิน รัฐบาลยังได้เร่งดำเนินมาตรการ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่าน SME D Bank และ EXIM Bank เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการใน 7 จังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบ

นางสาวศศิกานต์เน้นย้ำว่า "รัฐบาลเดินหน้าผลักดันแนวทาง 'ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย' อย่างจริงจัง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจในประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านการดูแลราคาสินค้า การสนับสนุนผู้ประกอบการ และการเปิดตลาดใหม่ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐเร่งดำเนินการ ว่าคนไทยทุกคนจะก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างมั่นคง"