'ปอด' สำคัญยังไง? แนะนำ 7 วิธีดูแลปอดให้ปลอดโรค อ้วน-บุหรี่ มีส่วน

เปิดเคล็ดลับทำให้ปอดแข็งแรงตลอดชีวิต "ปอด" อวัยวะสำคัญยังไง? สสส. แนะนำ 7 วิธีดูแลปอด ให้ปลอดโรค เรื่องที่ควรรู้ ความอ้วน น้ำหนักเกิน ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง PM2.5 มีส่วนทำให้ร่างกายแย่ เสียสุขภาพ เช็กช่วงเวลาที่ปอดทำงานได้ดีที่สุด เหมาะมากรับอากาศบริสุทธิ์ระหว่างวัน 

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตือนประชาชนให้หันมาใส่ใจดูแล "ปอด" อวัยวะสำคัญที่ทำงานหนักทุกวินาที เพื่อให้เรามีลมหายใจและดำรงชีวิตอยู่ได้

เน้นย้ำว่าการมีปอดที่แข็งแรงคือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดีโดยรวม พร้อมเปิด 7 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทุกคนทำตามได้ เพื่อปอดที่แข็งแรงและห่างไกลโรค

ทำไม "ปอด" ถึงสำคัญกว่าที่คิด 

หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของปอด แต่แท้จริงแล้วปอดคือโรงงานฟอกอากาศขนาดใหญ่ในร่างกายของเรา ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อหล่อเลี้ยงทุกเซลล์ และขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป หากปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ทั่วร่างกาย ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง อ่อนเพลีย และเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงตามมาได้

7 เคล็ดลับ ดูแลปอดให้ปลอดโรค ทำให้ปอดแข็งแรงตลอดชีวิต

7 วิธีปฏิบัติง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ที่จะช่วยบำรุงและปกป้องปอดของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดังนี้

1.) รักษา​สุขภาพ ร่างกายที่อ่อนแอ จะทำให้ติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย

ร่างกายที่อ่อนแอเปรียบเสมือนปราการที่เปราะบาง ทำให้เชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อโรคที่โจมตีระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

2.) รับประทาน​อาหาร​ให้เพียงพอ บำรุงปอด

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายโดยรวมแข็งแรง แต่ยังมีอาหารบางชนิดที่ช่วยบำรุงปอดโดยตรง เช่น ผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างวิตามินซี วิตามินอี หรือเบต้าแคโรทีน พบมากในบรอกโคลี แครอท ส้ม และเบอร์รี่ต่างๆ นอกจากนี้ โปรตีนที่ดีและไขมันดีก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของปอดเช่นกัน

3.) ควบคุม​น้ำหนัก ความอ้วน ทำให้สมรรถภาพปอดลดลง

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือภาวะอ้วนส่งผลให้สมรรถภาพการทำงานของปอดลดลง เนื่องจากไขมันที่สะสมบริเวณช่องท้องและหน้าอกจะไปจำกัดการขยายตัวของปอด ทำให้ปอดต้องทำงานหนักขึ้นและหายใจได้ไม่เต็มที่ การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการดูแลปอด

4.) ไม่ทำร้ายปอด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ และควันพิษต่างๆ

ข้อนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ "ควันบุหรี่" ไม่ว่าจะเป็นผู้สูบเองหรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ล้วนเต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายที่ทำลายเนื้อเยื่อปอดโดยตรง เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง และหลอดลมอักเสบเรื้อรัง รวมถึงควันพิษจากมลภาวะ PM2.5 ฝุ่นละออง และควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ก็เป็นภัยเงียบที่ทำลายปอดเช่นกัน การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

5.) ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปอด

แม้แอลกอฮอล์จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปอดโดยตรงเท่าบุหรี่ แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและเป็นประจำจะไปลดทอนภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ปอดอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ได้

6.) ตื่นแต่เช้าตรู่ ปอดจะทำงาน ได้ดีช่วงตี 3 - ตี 5

หลายคนอาจไม่ทราบว่าปอดของเราจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วงเวลาตี 3 ถึงตี 5 การตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะในบริเวณที่มีต้นไม้หรืออากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้ปอดได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ และเป็นการกระตุ้นการทำงานของปอดให้มีประสิทธิภาพ

7.) ออกแรง-ออกกำลัง โดยเฉพาะแอโรบิก

การออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและหัวใจ ทำให้ปอดสามารถนำออกซิเจนไปใช้ได้ดีขึ้น และเพิ่มความสามารถในการรับมือกับความเครียดของระบบทางเดินหายใจ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์

อ้างอิง-ภาพ : สสส.