เปิดรายละเอียด ค่าชดเชยใหม่ เหยื่ออาชญากรรม-จำเลยคดีอาญา

วันนี้ (4 มิ.ย. 68) รัฐบาลไทยได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่มุ่งเพิ่มการชดเชยแก่เหยื่ออาชญากรรมและจำเลยในคดีอาญาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงที่เสนอโดยกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจ่ายค่าตอบแทน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น

สาระสำคัญของการปรับปรุง

กฎกระทรวงฉบับใหม่นี้จะเข้ามาแทนที่กฎกระทรวงปี พ.ศ. 2546 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

• ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายเสียชีวิต : ทายาทจะได้รับค่าตอบแทนสูงสุด 300,000 บาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดิมที่ 30,000 – 100,000 บาท โดยพิจารณาจากค่าจัดการศพ ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู และค่าเสียหายอื่น ๆ

• ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายไม่เสียชีวิต

          - ค่ารักษาพยาบาล : จ่ายตามจริงไม่เกิน 80,000 บาท (จากเดิม 40,000 บาท)
          - ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ : จ่ายตามจริงไม่เกิน 50,000 บาท (จากเดิม 20,000 บาท)
          - ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ : จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี (คงเดิม)
          - ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น : จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับความเสียหายทางกายหรือจิตใจ (จากเดิม 50,000 บาท)
          - ค่าตอบแทนการสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ : มีการกำหนดใหม่สูงสุด 300,000 บาท เช่น กรณีทุพพลภาพจะได้รับ 300,000 บาท, แขนขาดข้างหนึ่ง/เท้าขาดสองข้าง 245,000 บาท, ขาขาดข้างหนึ่ง 225,000 บาท และมือขาดข้างหนึ่ง 185,000 บาท

• ค่าทดแทนกรณีจำเลยเสียชีวิตจากการถูกดำเนินคดี : ทายาทจะได้รับค่าทดแทนสูงสุด 300,000 บาท (จากเดิม 100,000 บาท) โดยครอบคลุมค่าจัดการศพ ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู และค่าเสียหายอื่น ๆ

• ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายกรณีจำเลยไม่เสียชีวิต

          - ค่ารักษาพยาบาล : จ่ายตามจริงไม่เกิน 80,000 บาท หากความเจ็บป่วยเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี (จากเดิม 40,000 บาท)
          - ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ : จ่ายตามจริงไม่เกิน 50,000 บาท (คงเดิม)
          - ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ : จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตลอดระยะเวลาที่ถูกดำเนินคดี (คงเดิม)
          - ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินคดี : ครอบคลุมค่าทนายความและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินคดีไม่เกิน 30,000 บาท (คงเดิม)

• การขอรับเงิน : กระบวนการขอรับเงินจะสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (สำหรับกรุงเทพฯ) หรือผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด (สำหรับต่างจังหวัด) จะเป็นผู้ลงนามใบสั่งจ่าย ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนที่ประชาชนต้องติดต่อถึงสองครั้ง

ความเห็นและขั้นตอนต่อไป

นายคารม กล่าวว่า การปรับปรุงครั้งนี้ได้รับการพิจารณาตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และจะไม่ส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือเยียวยาคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ตามหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน

หลังจากนี้ ร่างกฎกระทรวงจะถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจพิจารณา และกระทรวงยุติธรรมจะนำความเห็นจากสำนักงบประมาณและสำนักงานศาลยุติธรรมไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป