โซเชียลแห่ #saveพิรงรอง หลังศาลสั่งจำคุก 2 ปี ปมเตือน TrueID ขัดกฎ Must Carry

“โซเชียลค้าน” แห่ติดแฮชแท็ก #saveพิรงรอง #freeกสทช ไม่เห็นด้วยคำพิพากษา “ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง” สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต" กรรมการ กสทช. ที่ถูก ทรูไอดี ยื่นฟ้อง กรณีออกหนังสือเตือน TrueID ขัดเกณฑ์ 'Must Carry'

วันนี้ (6 ม.ค. 2568) 09.00 น. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีออกหนังสือเตือนการโฆษณาแทรกในรายการที่เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ True ID 

ต่อมาเวลา 09.40 น. ศาลอ่านคำพิพากษาจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต  ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

จากนั้นเวลา 11.35 น. ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ดร.พิรงรอง ซึ่งเดินทางลงจากศาลโดยมีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนก่อนเดินทางขึ้นรถกลับทันที
 

น.ส.สารี อ่องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ดร.พิรงรอง รามสูต ทำหน้าที่รักษาประโยชน์ของผู้บริโภค ที่ทำให้ไม่ต้องดูโฆษณา และเป็นไปตามประกาศของกสทช. และสภาผู้บริโภคก็มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคอยู่แล้ว

“พูดไม่ออก พูดยาก เพื่อนอาจารย์ที่มาฟัง ก็เสียใจกันมาก และผิดหวัง ผิดคาดว่าคำพิพากษาจะเป็นประโยชน์กับอาจารย์ เพราะเป็นครั้งแรกในคดีอาญาแต่ถูกตัดสินจำคุก ไม่รอลงอาญา แต่ก็เคารพการตัดสินของศาล” น.ส.สารี กล่าว

คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ได้เชิญชวนให้ร่วมติดแฮชแท็ก #saveพิรงรอง #freeกสทช เพื่อส่งกำลังใจให้อ.พิรงรอง กรณีถูกฟ้องหลังปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ปมออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทรูไอดี

คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ แถงการณ์แสดงจุดยืนปกป้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต

คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ (กนท.) ขอแสดงจุดยืนปกป้องพิรงรอง รามสูต ในฐานะกรรมการของสถาบันที่ทำหน้าที่กำกับดูแลในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่าง กสทช. เพื่อปกป้องประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค และการออกหนังสือตักเตือนนั้นเป็นไปตามหน้าที่อันสุจริตของกรรมการ กสทช. 

พร้อมกันนี้ กนท. ยังขอแสดงความกังวลถึงการฟ้องร้องในคดีดังกล่าวว่าอาจเข้าข่ายการใช้กฎหมายปิดปาก (SLAPP) ที่จะนำไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงลบในการกำกับดูแลกิจการฯ ของ กสทช. และยังสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวแก่สังคมจากการฟ้องร้องที่สื่อมวลชนพึงไม่มีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร

คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ขอเชิญชวนประชาคมจุฬาฯ และประชาชนจับตาคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่นอกจากจะส่งผลต่อพิรงรอง รามสูต แล้ว จะยังเป็นคำพิพากษาที่กำหนดบรรทัดฐานการกำกับดูแลสื่อและหน้าที่อันพึงกระทำของ กสทช. ต่อจากนี้

คณะกรรมการนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย