ประธาน กสทช. เผยหาก 'พิรงรอง' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอร์ดที่เหลือทำแทนได้

ประธาน กสทช. เผยหาก 'พิรงรอง' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ บอร์ดที่เหลือทำแทนได้

ประธาน กสทช.รับหนักใจ 'พิรงรอง' ถูกศาลฯพิพากษาจำคุก 2 ปี เผยหากมีวาระชี้ขาดต้องลงมติจำเป็นต้องดับเบิ้ล โหวตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ระบุหากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่บอร์ดที่เหลือ 6 คนทำงานต่อไป

นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา คดีระหว่างฝ่ายโจทก์ คือ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และจำเลย คือ นางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการกสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา เหตุมีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เสียหาย 

แต่ล่าสุดได้รับการประกันตัว ช่วยให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงิน 120,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ไปแล้วนั้น ส่วนตัวนั้น มองว่าหากนางสาวพิรงรอง รามสูต หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนเองยอมรับว่ามีความรู้สึกหนักใจ เพราะหากมีการพิจารณาวาระที่มีการลงคะแนนเสียง หรือ ลงมติที่มีคะแนนเท่ากัน 3:3 ประธานกสทช.มีหน้าที่ตามกฎหมายที่มีหน้าที่การชี้ขาด และนำไปสู่การลงคะแนน 2 ครั้ง หรือ ดับเบิ้ลโหวต แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้ถูกจับจ้องจากสังคม เหมือนกรณีที่ต้องลงคะแนนดับเบิ้ลโหวต รับทราบการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค

อย่างไรก็ตาม การทำงานของ กสทช. 6 คน สามารถทำตาม เพราะตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ 2553 กำหนดให้คณะกรรมการทำงานได้ทุกตำแหน่งทดแทนกัน และกำหนดจำนวนกรรมการขั้นต่ำ 5 คน ก็สามารถทำงานได้ตามกฎหมาย