นักเที่ยวกลางคืน ชายขี้เหงา ระวังสาวหน้าตาดีขอนอนด้วย ฉกทรัพย์โดนหลายคน

กรณี นักเที่ยวกลางคืน ชายขี้เหงา ระวังสาวสวยหน้าตาดีฉกทรัพย์ ตามที่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้จับกุมตัว น.ส.ภัทราภรณ์ หรือ บีบี อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 313/2567 ลงวันที่ 22 มกราคม 2567

กระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” 

สถานที่จับกุม ด้านหน้าคอนโด ซอยรามคําแหง 43/1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ คือ ผู้ต้องหาจะท่องราตรียามค่ำคืนโดยตระเวนหาเหยื่อตามสถานบันเทิงในย่าน กทม. เมื่อได้พบเจอกับผู้เสียหายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีการแลกเปลี่ยนไอดีไลน์กัน ก็ได้มีการพูดคุยเรื่อยมา ต่อมาผู้ต้องหาได้นัดพบเจอผู้เสียหายที่ห้องของผู้เสียหาย โดยทำทีว่าจะขอเข้าพักค้างคืนด้วย เมื่อสบโอกาสในระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำและเผลอใจ จึงได้ลักเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป 

โดยได้สิ่งของมีค่าที่ลักเอาไป มีดังนี้ 
1. สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 6 สลึง และพระจำนวน 1 องค์ 
2. แหวนทอง จำนวน 1 วง น้ำหนักประมาณ 2 สลึง 
3. บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ และใช้บัตรกดเงินออกมาได้อีกจำนวน 3,700 บาท (สามพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)

จากการสอบปากคำ พบว่ามีการกระทำในลักษณะนี้อีกจำนวนหลายครั้ง ได้เงินและของมีค่าประมาณ ครั้งละ 20,000-40,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่ด้วยกลัวจะเกิดความอับอาย ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เพราะเกรงจะเป็นข่าวและมีผลกระทบต่อครอบครัว จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวเตือนนักเที่ยวกลางคืน ชายขี้เหงา ให้ระมัดระวังสาวหน้าตาดี จะเข้ามาตีสนิทพูดคุยให้เหยื่อที่เป็นเป้าหมายได้ตายใจและจะไม่มีการลงมือในทันที แต่จะแลกเบอร์โทร ไลน์ พูดคุยและนัดเจอกันในภายหลัง เมื่อมีการนัดเจอและพูดคุยกันแล้ว ก็จะขอไปนอนด้วยและอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ฉกเอาทรัพย์สินหายไป

บางรายอาจจะโดนมอมยา รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้าก็พบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว ขอเตือนสตินักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแสงสียามราตรี ต้องระมัดระวังภัย มีสติยั้งคิด จากเหล่ามิจฉาชีพที่มุ่งหวังในทรัพย์สิน แต่ละรายจะใช้วิธีการไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือเชื่อคนง่ายเกินไป