สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 พ.ย. 66

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 พ.ย. 66

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 พ.ย. 66 ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,930 ล้าน ลบ.ม. (78%) เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำ ภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 พ.ย. 66 โดย สภาพอากาศวันนี้ มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีลมแรง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ วันที่ 28 – 30 พ.ย. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 27 พ.ย. 66 น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 3,955 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้

  • ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,930 ล้าน ลบ.ม. (78%)
  • ปริมาณน้ำใช้การ 39,726 ล้าน ลบ.ม. (69%)

เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 8 แห่ง

  • ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว
  • ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง

  • ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา
  • ภาคกลาง : กระเสียว
  • ภาคตะวันออก : คลองสียัด 

โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ

1) วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด  

2) ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง

3) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่

พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลาตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 

ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 25 – 30 พ.ย. 66 ดังนี้

1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง กงหรา เขาชัยสน ตะโหมด บางแก้ว ปากพะยูน และป่าบอน) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร จะนะ ควนเนียง หาดใหญ่ เทพา นาทวี นาหม่อม บางกล่ำ รัตภูมิ และสะบ้าย้อย) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี กะพ้อ โคกโพธิ์ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส จะแนะ เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี) 

2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำเขื่อนบางลาง จ.ยะลา 

3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เข้าร่วมประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้และลงพื้นที่ตรวจจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณ รพ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และบริเวณห้าแยกน้ำกระจาย อ.เมือง จ.สงขลา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเตรียมความพร้อมเข้าติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงท่วม และประสาน กฟผ. ให้คงอัตราการระบายน้ำของเขื่อนบางลางไว้ที่4 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อลดผลกระทบบ้านเรือนประชาชนที่มีน้ำท่วมขังอยู่บริเวณพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ  รวมถึงประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น