รถบรรทุกดินน้ำหนักเกิน ทำหลุมยุบกลาง กทม. ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา

วันนี้ (9 พ.ย. 66)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเหตุรถบรรทุกขนดิน ตกบ่อการไฟฟ้า บริเวณถนนสุขุมวิท 64/1 จนถนนพังเสียหาย และพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว มีสติกเกอร์รูปดาวสีเขียว อักษร B ติดอยู่ที่กระจกหน้ารถ จนมีการตั้งข้อสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับ ส่วยสติกเกอร์ รวมถึงเบื้องต้นมีการคาดว่า รถบรรทุกคันเกิดเหตุบรรทุกน้ำหนักเกิน จนเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยมีพิรุธมีการนำดิน ที่อยู่ท้ายกระบะบรรทุกไปทิ้ง และไม่ยอมให้มีการชั่งน้ำหนักในตอนแรก

ล่าสุด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระโขนง นำโดย ผู้อำนวยการเขต พร้อมด้วย สก. สส. เขตบางนา ร่วมกันนำเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ จากกรมทางหลวง เข้ามาชั่งน้ำหนักรถบรรทุกสิบล้อ ที่จอดอยู่กลางถนนหน้า สน.พระโขนง โดยการชั่งน้ำหนัก จะชั่งทางด้านล้อหน้า ล้อกลาง เเละ ช่วงล้อหลัง ของรถบรรทุกสิบล้อ

ผลปรากฎว่า น้ำหนักเมื่อรวมกันเเล้ว ทั้งดินเหนียวที่บรรทุกอยู่ในรถ เเละตัวของรถ รวมน้ำหนักทั้งหมด  37.450 ตัน ซึ่งเกินจากที่กฎหมายรถบรรทุกที่วิ่งใน กทม. จะต้องไม่เกิน 25 ตัน สำหรับเเผ่นคอนกรีตฝาปิดบ่อท่อร้อยสายไฟลงดินนั้น จากข้อมูลของการไฟฟ้านครหลวง สามารถรับน้ำหนักได้ 28 ตัน

พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ ผบ.ตร. และผบช.น.ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในส่วน บก.น. 5 ได้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้มีการดำเนินคดีในคดีนี้โดยเฉพาะ และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ 2. ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจะแจ้ง 2 ข้อหาคนขับรถบรรทุก คือ1.ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส 2.ขับรถบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะมีการริบรถบรรทุกหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของศาล 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการแอบลักลอบนำน้ำมันออกจากรถบรรทุก เพื่อให้น้ำหนักรถเบาขึ้นนั้น พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวว่า ตรวจสอบไปก็ไม่มีผลทางคดี เพราะน้ำหนักรถเกินอยู่แล้ว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้ยึดรถบรรทุกไว้เป็นของกลางแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจช่วยกันดูแลอยู่ การนำน้ำมันออกนั้นเชื่อว่าไม่มีผลต่อคดี อย่างไรก็ตามจากนี้จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป ทั้งนี้รถบรรทุกเป็นรถส่วนบุคคล 

 

เมื่อถามถึงสติ๊กเกอร์อักษรย่อตัวบี พร้อมเขียนว่าเสี่ยบิ๊กนั้น เสี่ยบิ๊กคือใคร พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวว่า เสี่ยบิ๊ก คือเจ้าของรถ จากการตรวจสอบเบื้องต้นชื่อบิ๊ก เป็นชื่อเล่นของเจ้าของรถ เป็นสติ๊กเกอร์ที่ทำขึ้นเพื่อให้รู้ว่าเป็นรถของเขา กรณีที่จะต้องเข้าไซด์งานก่อสร้าง เนื่องจากการขนดินออกนอกไซด์งาน จะสามารถทำได้ต้องมีสติ๊กเกอร์นี้เท่านั้น แต่เรายังไม่เชื่อซะทีเดียว เพราะต้องตรวจสอบว่ามีเรื่องส่วนสติ๊กเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่