'คมนาคม' ลุยตรวจด่านชั่งน้ำหนัก สอบปมส่วยสติ๊กเกอร์

'คมนาคม' ลุยตรวจด่านชั่งน้ำหนัก สอบปมส่วยสติ๊กเกอร์

"คมนาคม" ลุยตรวจด่านชั่งรถบรรทุก ยันใช้ระบบอัตโนมัติตรวจสอบ เตรียมหารือร่วมตำรวจทางหลวง สหพันธ์ขนส่ง และพรรคก้าวไกล จี้ปมทุจริตต่อเนื่อง ล่าสุดสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทางหลวงสถานีตรวจสอบน้ำหนักสุวินทวงศ์ หลังโดนแฉเอี่ยวสติ๊กเกอร์รถบรรทุก

นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระกรวงคมนาคม เปิดเผยหลังลงพื้นที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 347 จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้ (7 มิ.ย.) โดยระบุว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ด่านชั่งน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ติดสินบนด้วยการติดสติ๊กเกอร์บนรถบรรทุก ซึ่งพบว่าขั้นตอนการตรวจสอบและการคัดกรองรถบรรทุก ณ ด่านชั่งฯ มีการควบคุมการทำงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ใช้เทคโนโลยีระบบตรวจสอบน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่ (WIM) เข้ามาช่วยคัดกรองรถบรรทุกในเบื้องต้น เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถบรรทุกให้ทราบและนำรถเข้าชั่งน้ำหนัก ณ ด่านชั่งถาวร เพื่อตรวจสอบน้ำหนักว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

อีกทั้งด่านชั่งน้ำหนักอยุธยา กำกับดูแลโดยสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ (สคน.) กรมทางหลวงมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานีปฏิบัติงาน 13 คน มีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนักทุก 8 เดือน และ 1 ปี สลับกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ด่านชั่งน้ำหนักอยุธยาได้จับกุมรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จำนวน 2 คัน

อย่างไรก็ดี คณะทำงานฯ จะรวบรวมข้อมูลจากการตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อนำไปประมวลผลกับด่านชั่งของกรมทางหลวง จำนวน 97 แห่งทั่วประเทศ เพื่อปรับปรุงระบบการตรวจสอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น โดยพิจารณานำระบบ WIM เข้ามาใช้ เพราะปัจจุบันมีเพียง 37 แห่งเท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีตรวจสอบน้ำหนัก 16 แห่ง และมีแผนจะก่อสร้างให้ครบทั้งสิ้น 128 แห่ง ส่วนหน่วยตรวจสอบน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) กรมทางหลวงมีจำนวน 97 ทีม ส่วนกลาง 12 ทีม รวมเป็น 109 ทีม

"คณะทำงานยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเจ้าหน้าที่ และบุคลากรของกรมทางหลวงเพิ่มเติม ว่ามีโอกาสที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีนโยบาย สับเปลี่ยน หมุนเวียนเจ้าหน้าที่อยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยลดปัญหาการทุจริต"

ส่วนกรณีที่ฝั่งตำรวจทางหลวงได้ตรวจสอบและพิจารณาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดแล้วมากกว่า 15 รายนั้น คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลด่านชั่งน้ำหนัก และในวันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.2566) ผู้แทนจากกรมทางหลวง จะเข้าร่วมประชุมพร้อมกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ณ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งทางคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงฯ จะนำชุดข้อมูลที่กรมทางหลวงร่วมประชุมในวันนั้น นำมาพิจารณาเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเข้าข่ายกระทำความผิดจริงจะสั่งย้ายทันที และหากสอบสวนแล้วมีมูลเหตุน่าเชื่อถือว่ามีการกระทำความผิดจริงจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และทำตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กล่าวว่า กรณีที่มีการเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ทางหลวงสถานีตรวจสอบน้ำหนักสุวินทวงศ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก  ขณะนี้ได้สั่งการให้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานีตรวจสอบน้ำหนักสระแก้ว ตลอดจนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบทีผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ระดับใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น