นครปฐมเทกระจาด วัดไผ่ล้อมแทบแตก แจกเงินครึ่งล้าน แห่รอเข้าคิว 4 พันคน

ประชาชนญาติโยมร่วม 4 พันคน รวมตัวปักหลักรับบุญงานเทกระจาด ทำวัดไผ่ล้อมเต็มไปด้วยผู้ยากไร้เต็มพื้นที่วัด หลวงพี่น้ำฝน นำทัพบุญแจกเครื่องใช้ ข้าวสารอาหารแห้งพร้อมปัจจัยคนละ 100 บาทต่อลมหลายใจให้อาหารอิ่มท้อง งานทิ้งกระจาดประจำปี พ.ศ. 2566 

มีการแจกเงินร่วมครึ่งล้าน ข้าวสารเกือบหมดโกดัง แต่ทัพบุญไม่ถอยลงขันจัดให้ผู้มารอได้รับทุกคน เมื่อวันที่ 10 กันยายน 66 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์ จัดพิธีทิ้งกระจาด ประจำปี พ.ศ. 2566 

บรรดาศิษยานุศิษย์ สายบุญได้ร่วมกันนำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ประจำวันที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ซึ่งรวมถึงมีการแจกปัจจัยสำหรับนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน ให้รายละ 100 บาท

บรรดาศิษยานุศิษย์ สายบุญได้ร่วมกันนำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ประจำวันที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ซึ่งรวมถึงมีการแจกปัจจัยสำหรับนำไปใช้จ่ายในครัวเรือน ให้รายละ 100 บาท รวม

โดยในปีนี้มีผู้ที่เข้ามารอรับของในพิธีไม่น้อยกว่า 4,000 คน ทำให้บรรยากาศภายในวัดมีประชาชนเดินทางเข้ามารอเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางรายมาปักหลักอาศัยอยู่บริเวณวัดก่อนหน้างาน 1 วัน โดยพิธีการได้มีการจัดพิธีทางศาสนาแบบนิกายจีน ซึ่งได้มีการทำกงเต๊ก สวดและเผากระดาษเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ ก่อนที่มีการจัดพิธีการทิ้งกระจาดให้กับผู้ยากไร้ 

ประชาชนเข้ามารอนรับเครื่องใช้และปัจจัยมากกว่าปีก่อน ๆ มาก โดยต้องมีการจัดระเบียบให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ซึ่งหลวงพี่น้ำฝน ต้องให้เจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อม นำข้าวสารที่ได้รับบริจาคในสต๊อกออกมาแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มารอตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็นจนเกือบหมดวัด 

ขณะที่ ตลอดทั้งวันมีการแจกอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดวัน หลวงพี่น้ำฝน เผยว่า สำหรับการจัดงานทิ้งกระจาดในปีนี้มีศิษยานุศิษย์ขอในการเข้าร่วมในการนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาเป็นจำนวนมาก และมีส่วนที่ขอร่วมในการแจกปัจจัยให้ชาวบ้านนำไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นแต่ละสายที่มาร่วม รวมเป็นเงินหลายแสนบาท แต่ก็แทบจะไม่พอ

จึงได้ต้องมีร่วมกันจัดหามาสนับสนุนให้ทุกคนที่มารอได้รับไปด้วย โดยปีนี้ถือว่ามีญาติโยมที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือมาก

ซึ่งทางวัดไผ่ล้อมก็จะทำหน้าที่สนับสนุนช่วยเหลือสังคมต่อไป โดยเป็นงานที่คณะสงฆ์ต้องมีหน้าที่ช่วยญาติโยมในงานด้านสาธารณสงเคราะห์อยู่แล้ว