'ทักษิณ ชินวัตร' กลับไทย ล่าสุด ตำรวจ ตม.-นครบาล วางแนวทางรับ

'ทักษิณ ชินวัตร' กลับไทย ล่าสุด ตำรวจ ตม.-นครบาล วางแนวทางรับ

อัปเดตล่าสุด ตำรวจ ตม.-นครบาล วางแนวทางรับ 'ทักษิณ ชินวัตร' กลับไทย ชี้ตรวจสอบหนังสือเดินทาง หากมีหมายจับ-ผู้ต้องโทษในคดี ต้องถูกควบคุมตัว ก่อนส่งตัวให้นครบาล

ตำรวจ ตม.2 ดูแลพื้นที่ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง แจงยังไม่รู้กำหนดวันเวลา ทักษิณกลับไทย ยังไม่เตรียมสถานที่แน่ชัด ระบุก่อนหน้านี้วางแนวทางร่วมกับนครบาลไว้แล้ว ตามขั้นตอนเมื่อเข้าไทย ตรวจสอบหนังสือเดินทาง หากมีหมายจับ-ผู้ต้องโทษในคดี ต้องถูกควบคุมตัว ก่อนส่งตัวให้นครบาล ด้าน รอง ผบช.น. ระบุเตรียมพร้อมพื้นที่รัดกุมตั้งแต่จุดเริ่มต้น

ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กข้อความระบุว่า “26 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง”

ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.มนตรี แป้นเจริญ ผบก.ตม.2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดูแลในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการวันและเวลาที่แน่ชัดว่า นายทักษิณจะเดินทางมาเมื่อใด รวมถึงยังไม่ระบุว่า จะมาลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินดอนเมือง จึงยังไม่มีการเตรียมสถานที่ที่แน่ชัด

ในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการวางแนวทางร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลไว้แล้ว ซึ่งหน้าที่ในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คือ เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้าประเทศ ก็จะมีการตรวจสอบหนังสือเดินทางในระบบ ตามขั้นตอนของการเดินทางเข้าเมือง และหากพบว่ามีหมายจับ หรือ เป็นผู้ต้องโทษในคดี ก็จะมีการควบคุมตัวไว้ เพื่อรอส่งตัวให้ทางตำรวจนครบาลไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งทั้งหมด เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติ”

ขณะที่ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ระบุว่า ขณะนี้ทางตำรวจยังไม่มีข้อมูล หรือได้รับการประสานเรื่องการเดินทางอย่างเป็นทางการว่าจะเป็นวันไหน อย่างไร สนามบินใด ซึ่งตนเพิ่งได้ทราบข่าวจากทางสื่อเช่นกัน

ทั้งนี้ ขั้นตอนการดูแลรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกจะยังใช้วิธีการแบบที่เคยประชุมไว้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือ ถ้าอยู่ในเวลาราชการก็จะรับตัวและส่งศาลฏีกาในทันที แต่หากนอกเวลาราชการ ก็จะทำการส่งตัวไว้ที่สถานคุมตัวพิเศษ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีก่อน และจะย้ายตัวไปศาลฏีกาในเวลาราชการ จากนั้นสถานที่สุดท้ายคือนำตัวไปส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

“จากการประชุมที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เตรียมพร้อมพื้นที่ เส้นทางการเดินทางทั้งหลักและรอง เป้าหมายการเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นควบคุมตัวที่สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสถานที่ต่างๆอย่างรัดกุม”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้มีสำเนาเอกสารหลุด เกี่ยวกับการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ จากที่ประชุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการพิจารณากำหนดเส้นทางการเดินทาง กองบังคับการตำรวจจราจร รวม 6 เส้นทาง

  • เส้นทาง (หลักและรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา(สนามหลวง)
     
  • เส้นทาง(หลักและรอง)จากสนามบินดอนเมืองมายังศาลฎีกา(สนามหลวง)
     
  • เส้นทาง(หลักและรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายัง บช.ปส.(กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด )เป็นสถานที่ควบคุมพิเศษ
     
  • เส้นทาง(หลักและรอง) จากสนามบินดอนเมืองมายัง บช.ปส.
     
  • เส้นทาง(หลักและรอง) จากบช.ปส.มายังศาลฎีกา (สนามหลวง)

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาแนวทางวางกำลังรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจรพื้นที่เกี่ยวข้อง ตามเส้นทางการเดินทาง และแต่ละสถานที่ ทั้ง สนามบินสุวรรณภูมิ/สนามบินดอนเมือง/บช.ปส. และศาลฎีกา ซึ่งการจัดรูปแบบขบวนรถในการรักษาความปลอดภัย ให้ บก.จร.และบก.สปพ (กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ) พิจารณาแนวทางจัดรูปแบบขบวน